ATK แจกฟรีเหลืออื้อ สปสช.เผยปชช.ใช้แล้ว 2.1 ล้านชุด จาก 8.5 ล้านชุด ย้ำผลเป็นบวก มีเจ้าหน้าที่ดูแล หาคลินิกหรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน เข้าสู่ระบบรักษา
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.64 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการและโฆษก สปสช. เปิดเผยภายหลังร่วมกับ นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เสริมสร้างความรู้ข่าวสารด้านสุขภาพและสิทธิหลักประกันสุขภาพสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผ่านแอพพลิเคชั่น “อสม. ออนไลน์” ระหว่าง สปสช. กับ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ว่า
กรณีการแจกชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบสวอบ หรือ แอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ให้ประชาชนตรวจและเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเอง ตามที่ สปสช.จัดซื้อชุดตรวจเอทีเค แจกประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 8.5 ล้านชุด และดำเนินการแจกผ่านระบบแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ไปแล้วเป็นเวลากว่า 50 วัน ขณะนี้แจกชุดตรวจไปแล้วทั้งสิ้น 2.1 ล้านชุด ซึ่งกลุ่มที่รับชุดเอทีเคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้มีแผนจะจัดซื้อชุดตรวจเอทีเคเพิ่มหรือไม่ ทพ.อรรถพร กล่าวว่า เดิม สปสช.คาดการณ์ไว้ว่า 2 สัปดาห์ น่าจะแจกได้ทั้งหมด แต่ปรากฏว่าไม่หมด
ล่าสุดทำแบบสอบถามออนไลน์ มีผู้ตอบ 2,088 ราย พบว่า 4 ใน 5 ราย ทราบว่ามีการแจกเอทีเค ก็แปลว่าประชาสัมพันธ์ทั่วถึง เพียงแต่ว่าหน่วยบริการ อาจจะไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน หรือประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าเขาไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง เลยไม่ได้ไปรับชุดตรวจเอทีเค
เมื่อถามว่า กรณีที่ประชาชนรับชุดตรวจเอทีเคไปใช้ และผลตรวจออกมาเป็นบวก สปสช.มีแนวทางดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ทพ.อรรถพร กล่าวว่า หากผลเป็นบวก และผู้ป่วยมีทะเบียนบ้านพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ข้อมูลบันทึกผลจะถูกส่งไปยัง สปสช. และเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปภายใน 24 ชั่วโมง
“หากชุดตรวจแรกให้ผลเป็นบวก เราจะให้ตรวจซ้ำ หากผลออกมาเป็นบวกทั้งคู่ เราจะหาคลินิกที่อยู่ใกล้หรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน ติดต่อเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน หรือระบบโฮมไอโซเลชั่น (Home Isolation) ถ้ามีอาการ เท่านี้ในส่วนของกรุงเทพฯ แต่ในส่วนของต่างจังหวัด เราจะส่งข้อมูลให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง และนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่การรักษาเช่นเดียวกัน หากไม่แน่ใจให้ติดต่อไปที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 17 จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับสายตลอด 24 ชั่วโมง” ทพ.อรรถพร กล่าว
รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวถึงการเปิดแอพฯ อสม. ออนไลน์ ว่า เพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำเป็นต้องใช้ช่องทางการสื่อสารต่างๆ ไปยังประชาชน เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการ โดย อสม.เป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการร่วมสื่อสารข้อมูลหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไปสู่ประชาชนได้
Advertisement
“การพัฒนาแอพพ์ฯ อสม. ออนไลน์ เป็นช่องทางสำหรับหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และอสม. เสื่อสารข้อมูลสุขภาพกับสปสช.โดยตรง ซึ่งมีความสะดวก รวดเร็ว จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์วิกฤตด้านสาธารณสุขที่ต้องสื่อสารเร่งด่วน ส่วนประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนจะเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพิ่มขึ้น” ทพ.อรรถพร กล่าว
นางสายชล กล่าวว่า ล่าสุด แอพฯ อสม.ออนไลน์ มีผู้ใช้งานกว่า 5 แสนราย ข้อดีของแอพพ์ อสม. ออนไลน์ สามารถทำให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
ที่มา มติชนออนไลน์
