เชียงใหม่ สั่งปิด 7 สถานที่เสี่ยง 5 อำเภอ หลังโควิดพุ่งอันดับ 2 ประเทศ รายใหม่ 429 ราย ขอให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเร่งตรวจหาเชื้อ
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2564 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยสั่งปิด 7 สถานที่เสี่ยงใน 5 อำเภอ เป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 429 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพมหานคร
โดยพบการติดเชื้อโรคโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน ได้แก่ แคมป์คนงาน หมู่ที่ 7 บริษัท ซิโนไฮโดร (ไทยแลนด์) จำกัด ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 13 พ.ย. 2564, หอพักนายครรชิต ศรีวิชัย เลขที่ 100 หมู่ที่ 5 บ้านเทพาราม ต.ป่าบง อ.สารภี, แคมป์คนงานสวนลุงเจริญ เลขที่ 188 หมู่ที่ 11 บ้านช้างค้ำ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี และบ้านพักแรงงานต่างชาติ เลขที่ 50/2 หมู่ที่ 7 บ้านบวกหัวช้าง ต.ท่าวังตาล อ.สารภี ระหว่างวันที่ 2 พ.ย. – 15 พ.ย. 2564
นอกจากนี้ ยังสั่งให้ปิดพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านแอ่นใหม่ ต.บ้านแอ่น อ.ดอยเต่า ระหว่างวันที่ 4 พ.ย. – 18 พ.ย. 2564, ปิดพื้นที่หมู่ที่ 12 บ้านผาแดง ต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 13 พ.ย. 2564 และปิดพื้นที่หอพักนางพัฒนกิจ (หอพักสีส้ม) เลขที่ 135 หมู่ที่ 6 ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด ระหว่างวันที่ 4 – 17 พ.ย. 2564
ทั้งนี้ ขอให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกรายเข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 หากผลตรวจเป็นลบให้กักตนเอง (Home Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำให้คุมไว้สังเกตอาการ เป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่อย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค
พร้อมให้นายอำเภอแต่ละอำเภอ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอฯ กำกับและควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
