พัทยา ร้องขอขายเหล้า-เบียร์ ในร้าน หลังต่างชาติหนี งงทำไมจังหวัดอื่นขายได้ ทั้งที่ยอดโควิดสูงกว่าพัทยา โอดรายได้ลดกว่า 60 เปอร์เซ็นต์

3 ธ.ค. 2564 – นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการแทนประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี กล่าวว่า หลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาจำนวน 9,437 คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เทียบกับปีปกติก่อนเกิดการระบาดโควิด ที่มีต่างชาติเข้ามาจำนวนกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน

ล่าสุดมีมติออกมาให้จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และ ภูเก็ต สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนั่งดื่มภายในร้านหรือโรงแรมได้ รวมถึงพื้นที่บลูโซนที่กำหนดไว้ด้วย ซึ่งศบค. ได้ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดอนุมัติในการเปิดขายแอลกอฮอล์และนั่งดื่มได้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

แต่จากการหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อ พบว่าพื้นที่พัทยา ยังไม่อนุญาตให้ขายและดื่มแอลกอฮอล์ได้

หากประเมินในแง่ความปลอดภัย พื้นที่พัทยา ขณะนี้พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ถึง 100 คนต่อวัน ขณะที่พื้นที่ท่องเที่ยวอื่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 คนต่อวัน แต่สามารถเปิดขายแอลกอฮอล์และนั่งดื่มได้ รวมถึงพื้นที่บลูโซนอื่นเช่น ชะอำ ที่อนุญาตให้ขายเป็นบางพื้นที่

“ตอนนี้ต้องผลักดันให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้ ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามา แล้วร้องเรียนมาว่า ทำไมไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ บางส่วนสอบถามการเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ แต่เมื่อไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ ก็ตัดสินใจไปเที่ยวที่อื่นแทน ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่พัทยาที่เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเหมือนกัน จึงไม่สามารถขายแอลกอฮอล์ได้”

จากข้อมูลพบว่า ยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ปกติอยู่ที่ 5 แสนบาทต่อวัน เมื่อเปิดเมืองแล้วยอดขายกลับมาประมาณ 2 แสนบาท จากที่ตกลงไปเหลือหลักหมื่นเท่านั้น เพราะยังไม่สามารถขายหรือดื่มแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งหากยังเป็นแบบนี้อยู่ ผลกระทบจะทำให้ยอดขายหายไปกว่า 60%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน