เปิดไทม์ไลน์ เจอติดโอไมครอนอีก 2 พบกลับจากไนจีเรีย ไม่ฉีดวัคซีน-ไม่สวมหน้ากาก เผยอีกรายไปสวีเดนผลบวกด้วย เป็นไปได้ติดโอไมครอน กำลังรอผลยืนยัน

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค เป็นตัวแทนศบค.แถลงว่า สถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อรายใหม่ 597,890 ราย เสียชีวิต 7,708 ราย 20 ประเทศแรก อันดับหนึ่งยังเป็นสหรัฐอเมริกาติดเชื้อ 107,642 ราย ส่วนยุโรปยังเพิ่มขึ้นทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี น่าสังเกตว่ารัสเซียยังพบผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องวันนี้เสียชีวิต 1,182 ราย รองจากสหรัฐฯ ที่พบ 1,722 ราย

ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 24 ประเทศเพื่อนบ้านต้องระวัง คือ มาเลเซีย พบติดเชื้อ 4,965 ราย เวียดนาม 13,840 ราย ขณะนี้เวียดนามประกาศปรับระบบการกลับเข้ามาเรียนในมัธยมปลายที่ฮานอย เนื่องจากมีการระบาดรอบใหม่ โดยเดิมจะให้เปิดเรียนตามปกติ แต่ขณะนี้ให้สลับกันมาเรียน ครึ่งหนึ่งเรียนวันจันทร์ พุธ ศุกร์ อีกครึ่งหนึ่งเรียนวันอังคาร พฤหัส เสาร์ เป็นต้น ส่วนลาวยังมีรายงานผู้ติดเชื้อวันละ 1-2 พันรายต่อวัน

สำหรับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ติดเชื้อแล้ว 56 ประเทศ ประเทศที่เพิ่มมาคือ โมซัมบิก ส่วนกลุ่มประเทศที่ติดเชื้อจากการเดินทางเข้ามามี 36 ประเทศ รายงานเพิ่มขึ้นคือ อูกานดา

ส่วนประเทศไทย มีรายงานเข้ามา 3 ราย รายแรก เป็นชายอายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน เป็นนักธุรกิจ เดินทางมาถึงไทยวันที่ 1 ธ.ค. จากดูไบ เข้าระบบ Test&Go ตรวจ PCR วันแรกเป็นบวก จากนั้นถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว ผลยืนยันโอมิครอนในวันที่ 3 ธ.ค. ไม่มีอาการ อยู่ระหว่างกักตัว ดูแลรักษาในรพ. สอบสวนโรคมีผู้เสี่ยงต่ำ 17 ราย ที่สนามบินอีก 2 ราย ทั้งหมดถูกตามตัวมาตรวจซ้ำ ผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด

วันนี้มีรายงานเพิ่มมา 2 ราย เป็นกลุ่มล่ามมี 3 คนในชุดนี้ที่เป็นคนไทย ได้ร่วมประชุมเป็นตัวแทนคริสตจักรแห่งหนึ่งในประเทศไนจีเรีย ซึ่งมีผู้เดินทางทั้งหมด 20 คน อีก 17 คนเป็นต่างชาติ ช่วงไปประชุม คือ วันที่ 13-23 พ.ย.2564

โดยรายที่ 2 และรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 36 ปี และ 46 ปี อีกรายที่เป็นคนไทยเมื่อประชุมเสร็จได้เดินทางไปสวีเดน ดังนั้นจึงมี 2 รายเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งได้ตรวจเชื้อผลเป็นลบ ระหว่างเดินทางวันที่ 23 พ.ย. เริ่มมีอาการไอ เมื่อมาถึงเข้าสู่ระบบกักตัว เพราะทั้งคู่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และไม่ได้มาจาก 63 ประเทศต้นทาง เมื่อเข้าสู่ระบบกักตัว จึงได้ตรวจ RT-PCR วันแรก ผลเป็นบวกทั้งคู่

“เมื่อผลบวกก็เข้าสู่การรักษา แต่เนื่องจากวันที่ 26 พ.ย. องค์การอนามัยโลกประกาศให้โอไมครอน เป็นสายพันธุ์น่ากังวล จึงนำตัวอย่างของทั้ง 2 รายที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา มาตรวจเพิ่มเติม จนพบมีความเป็นไปได้ว่าติดเชื้อ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว ในการยืนยันว่า เป็นโอไมครอนหรือไม่ ซึ่งผลจะออกใน 1-2 วันนี้” พญ.สุมนีกล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ ระหว่างนี้ทางกรมควบคุมโรคสอบสวนโรคจนพบว่า ทั้งคู่ตอนไปไนจีเรีย ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ประกอบกับไม่ฉีดวัคซีน ทำให้มีความเสี่ยงทั้งคู่ ขณะนี้ทั้งคู่ได้รับการรักษาจนหายดีและครบกำหนดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เราได้ติดต่อ เพื่อให้คุมสังเกตอาการอีกครั้งใน 7 วัน ส่วนอีกรายที่เดินทางไปไนจีเรีย และเดินทางไปสวีเดนนั้น ได้สอบถามไปทางสวีเดนพบว่า ได้ตรวจเชื้อพบเป็นบวกที่ประเทศสวีเดนเช่นกัน

“ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านเข้มมาตรการส่วนบุคคล เชื้อโรคจะไม่ทะลุออกมาจากหน้ากากอนามัยออกสู่ภายนอกได้ จึงขอให้ปฏิบัติ และขอให้เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่ว่าไปทำงาน ไปประชุม หรือไปเที่ยว” พญ.สุมนี กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน