สกัดโอไมครอน! พรุ่งนี้กทม.ตรวจ 2 โรงแรมย่านบางรักที่ผู้ป่วยพัก-เก็บตัวอย่างกลุ่มเสี่ยงชายชาวมะกัน สำรวจชุมชนที่ชาวแอฟริกันอาศัย หากมาใหม่ต้องกักตัว

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะชุมชนที่มีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว ประกอบอาชีพ หรือพักอาศัยจำนวนมาก เช่น ย่านสีลม เขตบางรัก ซอยนานา เขตคลองเตย ถนนข้าวสาร เขตพระนคร ย่านทองหล่อ เขตวัฒนา ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ ฯลฯ

พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการและประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจชุมชนที่มีชาวแอฟริกันอาศัยอยู่ หากมีผู้เดินทางเข้ามาใหม่ จำเป็นต้องกักตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในชุมชนร่วมกันสอดส่องดูแล เฝ้าระวังไม่ให้มีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยโดยพลการ

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประสานความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สุ่มตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยไข้หวัดที่เป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ขอความร่วมมือโรงแรมทุกแห่งให้เข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของการกักตัว (Quarantine)

“ส่วนในกรณีที่ชายสัญชาติอเมริกันอายุ 35 ปี ผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรกของประเทศไทย สำนักอนามัย กทม.โดยกองควบคุมโรคติดต่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 ร่วมกับสำนักงานเขตบางรัก ลงพื้นที่สอบสวนโรคในโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ที่ผู้ป่วยเข้าพักในพื้นที่เขตบางรัก และนัดเก็บตัวอย่างผู้สัมผัสโรคในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ พร้อมทั้งแนะนำการทำความสะอาดสถานที่ การปฏิบัติตัวในการป้องกันตนเองแก่พนักงาน และเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้มารับบริการ” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า นอกจากนี้ มอบหมายให้สำนักงานเขตตรวจสอบสถานบันเทิงสถานประกอบการในพื้นที่ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ท้องที่ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจท่องเที่ยว สรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยสถานบันเทิงสถานประกอบการ กวดขันร้านที่มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด

ตามประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 45, 46 และ 47 เพื่อทำความเข้าใจและเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เช่น มาตรการ DMHTTA มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention)

มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA/SHA+) ของกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมาตรฐานความปลอดภัยป้องกันโรคโควิด-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop Covid Plus) ของกรมอนามัย สธ.

“ในส่วนของโรงพยาบาล (รพ.) ในสังกัดสำนักการแพทย์ ทั้ง 11 แห่ง เปิดให้บริการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ต่างๆ ใกล้ รพ. ซึ่งเปิดให้บริการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ฟรี โดยประชาชนสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนศูนย์ BFC ทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ รพ.กลาง โทร.02-225-1354 รพ.ตากสิน โทร.02-437-7677 รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ โทร.02-289-7986 รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ โทร.02-429-3575, 02-429-3258 รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ โทร.02-543-2090 รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร โทร.02-327-3049

รพ.ราชพิพัฒน์ โทร.02-444-3660 รพ.สิรินธร โทร.02-328-6760 รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน โทร.02-452-7803 รพ.คลองสามวา โทร.02-150-1300 และ รพ.บางนากรุงเทพมหานคร โทร.02-180-0202 ต่อ 103” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า

นอกจากนี้ ยังเปิดจุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีไดรฟ์ทรู จากทีมแพทย์เคลื่อนที่ รพ.ราชพิพัฒน์ ให้บริการตรวจหาเชื้อโดยไม่ต้องลงจากพาหนะแก่ประชาชนที่มีความเสี่ยง รวมถึงประชาชนที่สะดวกจะเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ถนนบรมราชชนนี (สายใต้ใหม่) เขตตลิ่งชัน ซึ่งจะมีกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 1 เม.ย.65

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน