สธ.เผยทั่วโลกติด “โอไมครอน” 3 พันกว่าคน สัดส่วนไม่ถึง 1% จับตาแทนที่เดลตา ส่วนไทยรายที่ 4 รอผลยืนยัน ชี้ไม่ควรตกใจมากเกินไป แต่ยกการ์ดสูงต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในไทย ว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันแล้ว 3 คน รายแรกคือ ชายชาวอเมริกันเดินทางมาจากประเทศสเปน รายที่ 2 และ 3 เป็นหญิงไทย เดินทางกลับมาจากไนจีเรีย ส่วนรายที่ 4 เป็นชายไทยเดินทางกลับมาจากประเทศดิอาร์ คองโก อยู่ระหว่างการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยช่วงเช้าของวันที่ 11 ธ.ค. ผลยังไม่ออก แต่มีแนวโน้มเป็นไปได้สูง

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามดูตัวเลขผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มีประมาณ 3 พันกว่าคน โดยประเทศแอฟริกาใต้มีตัวเลขสูงสุด รองลงมาคือ อังกฤษ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรแล้วไม่ถึงร้อยละ 1

ดังนั้น หากดูแต่ยอดตัวเลขเพียงอย่างเดียวซึ่งเพิ่มขึ้นสูง ทำให้เกิดความกังวล แต่หากดูรายละเอียด จะเห็นว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก ก็ไม่พบผู้สัมผัสที่ติดเชื้อสักราย สำหรับไทยก็ยังไม่พบผู้สัมผัสติดเชื้อเช่นกัน สถานการณ์การระบาดของทั่วโลกยังเป็นสายพันธุ์เดลตา ส่วนสายพันธุ์โอไมครอนจะมาแทนที่เดลตาหรือไม่ต้องจับตาดูกันต่อไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกำลังจับตามอง และแนะนำด้วยว่า เรากังวลกับสายพันธุ์นี้ได้ แต่ไม่ควรตกใจมากเกินไป

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์โควิดในไทย สัปดาห์ที่ผ่านมามีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ผู้เสียชีวิตขึ้นลง 30-50 คน คาดว่าค่าเฉลี่ยจะลงมาเรื่อยๆ เรายังพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มงานบุญ งานประเพณี สถานประกอบการ แต่ไม่ใช่กลุ่มก้อนใหญ่ ซึ่งก็ต้องคอยเตือนให้ระวังตัว ไม่ให้วางใจเกินไป แต่ภาพรวมตั้งแต่หลังลอยกระทงก็ไม่พบกลุ่มก้อนที่เกี่ยวเนื่องกัน ถือว่าเป็นความสำเร็จและเป็นความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตนเองในการออกมาร่วมงาน ส่วนกลุ่มตลาดยังพบ เพราะเป็นสถานที่ที่มีคนหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้ดูเหมือนว่าผู้ป่วยจากตลาดยังพบได้อยู่ ส่วนตัวเห็นว่าทำได้ขนาดนี้ก็น่าพอใจ ขอให้ยกการ์ดสูงต่อเนื่องกันไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน