ศบค.รายงานติดเชื้อวันนี้ 2.6 พันราย ตาย 27 เปิดไทม์ไลน์ สามี-ภรรยา ชาวกาฬสินธุ์ กลับจากเบลเยียม ติดโอมิครอน แพร่เชื้อไปแล้ว 21 ราย เผยทั่วโลกครบแล้ว 98 ประเทศ ไทย เจอ 205 ราย ขอ อย่าประมาท เทศกาลปีใหม่ เข้มระบบสธ.รับมือ

วันที่ 24 ธ.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ในประเทศไทย ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ภายในประเทศวันนี้ มีรายงานติดเชื้อรายใหม่ 2,671 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 2,558 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 2,502 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 56 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 58ราย จากต่างประเทศ 55 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 2,766 ราย

อยู่ระหว่างการรักษา 38,192 ราย อาการหนัก 836 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 218 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 27 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 14 ราย เป็นผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป 21 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย เสียชีวิตมากที่สุด ที่จ.นครศรีธรรมราช 5 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งตั้งปี 2563 ทั้งสิ้น 2,204,672 ราย หายป่วยสะสม 2,144,952 ราย เสียชีวิตสะม 21,528

ทั้งนี้ ยอดผู้ฉีดวัคซีนในประเทศเพิ่มเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 530,244โดส ทำให้มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 101,609,859 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 278,524,003ราย เสียชีวิตสะสม 5,400,605 คน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม.411 ราย ชลบุรี 175 ราย นครศรีธรรมราช 144ราย สมุทรปราการ 87 ราย สงขลา 85 ราย ขอนแก่น 71 ราย ราชบุรี 60 ราย พัทลุง 29 ราย พิษณุโลก 59 ราย และเชียงใหม่ 56 ราย

โดยมีครัสเตอร์ที่น่าสนใจคือครัสเตอร์พิธีกรรมศาสนา ที่ผู้ร่วมงานมีการสวมหน้ากากอนามัยระหว่างร่วมพิธีแต่มีจุดอ่อนหลังจบงานจะมีการรับประทานอาหารร่วมกันทำให้เกิดการแพร่เชื้อรวมถึงมีรายงาน มีการตั้งวงไพ่ วงพนัน จึงขอให้ทางจังหวัดช่วยป้องกันในส่วนนี้ นอกจากนี้ยังมีบางจังหวัดมีรายงานการลักลอบเปิดสถานบันเทิง เส้นที่จังหวัดสงขลาฉะเชิงเทรา มหาสารคาม จึงขอให้ทางจังหวัดเข้มข้น ควบคุมเรื่องเหล่านี้ด้วย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับการจัดงานเทศกาลปีใหม่มีหลายจังหวัดประกาศงดจัดงาน เช่น กรุงเทพมหานคร ออกประกาศงดเว้นการจัดงานปีใหม่ในส่วนของกทม. ซึ่งการจัดงานปีใหม่นั้นศบค.มีการออกมาตรการมาแล้ว แต่ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดควบคุมมาตรการในจังหวัดของตัวเอง ที่สามารถปรับให้เข้มข้นขึ้นได้

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน กระทรวงสาธารณสุขยังคงจับตาดูอย่างใกล้ชิด ตอนนี้มีการยืนยันประเทศที่มีการแพร่ระบาดเชื้อดังกล่าวไปแล้ว 98 ประเทศ ส่วนที่บางสำนักข่าวรายงานว่าแพร่ระบาดไปเป็นร้อยประเทศแล้วนั้นขอให้ยึดตัวเลขจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโอมิครอน เข้าไปแล้ว 205 ราย ส่วนใหญ่มาจากผู้เดินทางในระบบเทสต์ แอนด์ โก

โดยรายล่าสุดเป็นคู่ สามี-ภรรยา อายุ 47 ปี ที่พบที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางมาจากประเทศเบลเยียม ทั้งคู่ตรวจRT-PCR เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมและผลออกมาเป็นลบ เข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เมื่อมาถึงก็ตรวจRT-PCR ผลเป็นลบ จึงเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์บ้านเกิด ในวันที่ 11 ธันวาคม จากนั้นวันที่ 12 ธันวาคม มีการรับประทานอาหารกับครอบครัว พบว่าร้านอาหารที่ใช้บริการมีลักษณะเป็นพื้นที่ปิด

ทั้งสองคนเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 13 และ15 ธันวาคม ระหว่างนั้นทั้งสองคนมีการเดินทางไปธนาคาร และสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยสารรถตู้ประจำทาง รวมถึงมีการข้ามพื้นที่ไปยังจังหวัดขอนแก่น มีการพบปะผู้คน จนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง วันที่ 15 ธันวาคมมีการตรวจ ATK ซ้ำ และเข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาลวันที่ 17 ธันวาคม ผลยืนยันจากการตรวจRT-PCR ทั้ง 2 คนติดโควิด-19 แล้วยืนยันสายพันธุ์ในวันที่ 21 ธันวาคมว่าเป็นโอมิครอน ทั้งสองคน

จากคลัสเตอร์นี้ทำให้มีรายงาน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้ว 21 คน นอกจากนี้ ยังมีบางจังหวัด ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะติดตามสอบสวนทุกราย และจะนำรายละเอียด มานำเสนอต่อไป

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงาน การตรวจสายพันธุ์โควิด 20-23 ระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม จาก 874 ตัวอย่าง พบว่า ทั่วประเทศเป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา 83.8% โอมิครอน 16.2% เฉพาะในกทม.207 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 25.5% โอมิครอน 43.5% ขณะที่ภูมิภาค 667 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 92.2% โอมิครอน 7.8%

และถ้าดูเฉพาะกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศจำนวน 221 ตัวอย่าง พบเป็นผู้ติดเชื้อโอมิครอน 52.9% เดลตา 47.1% กลุ่มอื่นๆในประเทศ 653 ตัวอย่าง เป็นเดลตา 96.2% โอมิครอน 3.8% แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ที่ติดโควิดกว่าครึ่งเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งถือว่ามากกว่าตัวเลขการรายงานเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่เชื่อโอมิครอนในกลุ่มเดินทางเข้าประเทศ มีเพียง 1 ส่วน 4

และจากรายงานประเทศอังกฤษพบว่า ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 50% นอนโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป 61% ขณะที่สายพันธุ์โอมิครอน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 20-25 เปอร์เซ็นต์ นอนโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป 40-45 % สอดคล้องกับการศึกษาของประเทศแอฟริกาใต้ ที่ศึกษาระหว่าง 1 ตุลาคมถึง 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

พบว่าอัตราการนอนโรงพยาบาลของโอมิครอน อยู่ที่ 2.5 % ถือว่าน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่กลับพบว่ากรณีผู้ป่วยอาการหนักมีถึง 21 % หมายความว่าความรุนแรงไม่ต่างกันกับสายพันธุ์อื่น ดังนั้น แม้ ว่าผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลจากสายพันธุ์โอมิครอน จะน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่จะสรุปว่าโอมิครอน รุนแรงน้อยกว่าแล้วเราจะสบายใจ ไม่ต้องระมัดระวังมากจะถือเป็นการด่วนสรุปที่ประมาทเกินไป

เพราะตามภาพข่าวที่หลายประเทศในยุโรปมีผู้ติดเชื้อเป็นหลักแสน บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก และคนเหล่านี้กลายเป็นผู้สัมผัสเสียงสูงจะทำให้ระบบสาธารณสุขตรึงตัว ดังนั้นในเทศกาลปีใหม่กระทรวงสาธารณสุขโรงพยาบาล ระบบสาธารณสุขทั้งหมดของประเทศเตรียมความพร้อม ศูนย์กักตัวในชุมชน หรือการจัดทีมรองรับการแพร่ระบาดในชุมชน ต้องเตรียมพร้อมไว้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน