‘อนุทิน’ สั่ง สปสช.กระจาย ATK อีกล้านชุด เน้นชุมชนแออัด ตลาด ขนส่ง หลังโอมิครอนแพร่เร็ว เชื่อทำให้ราคาตลาดลดเหลือ 20-40 บาท สายด่วน 1330 เพิ่ม จนท. 230 คน
วันที่ 10 ม.ค.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย และได้ขอให้หน่วยบริการทุกแห่ง ทุกระดับ เร่งรัดการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ หรือกระจายชุดตรวจ ATK ให้ประชาชนตรวจเอง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในชุมชนแออัด ตลาด ขนส่งสาธารณะ เป็นต้น เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง
“ส่วนชุดตรวจ ATK ที่ สปสช.จัดซื้อผ่านหน่วยงาน สธ.ก่อนหน้านี้ ยังคงเหลือประมาณ 1 ล้านชุด คงจะมีการเร่งกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนตรวจเชื้อโควิด 19 ด้วยตนเองต่อไป ซึ่งการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ของ สปสช.ส่งผลให้ ATK ที่จำหน่ายในท้องตลาด จากชุดละ 200-300 บาท เหลือเพียง 20-40 บาท เป็นราคาอยู่ในระดับที่ประชาชนสามารถซื้อได้เพื่อดูแลตนเอง ลดความกังวล และส่งผลต่อการเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อไป” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนสายด่วน สปสช. 1330 ด้วยสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้น ทำให้จำนวนสายของประชาชนที่โทรเข้ามาเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น ขอคำแนะนำบริการ ขอเตียงรักษา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ สปสช.ได้เตรียมความพร้อมสายด่วน สปสช. 1330
โดยจัดเตรียมเจ้าหน้าที่จำนวน 230 คน สามารถรับสายได้สูงสุดจำนวน 20,000 สายต่อวัน เพื่อรองรับประชาชนที่โทรเข้ามาติดต่อขอความช่วยเหลือ อาทิ จับคู่ผู้ติดเชื้อในระบบการดูแลผู้ติดเชื้อที่บ้านและในชุมชน (Home Isolation / Community Isolation) การโทรติดตามอาการ และการประสานหาเตียงหากต้องต้องการรับการรักษาในโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสายประชาชนที่โทรเข้ามาประมาณ 4,500-5,000 สายต่อวัน
“ขณะนี้ทุกฝ่ายในระบบสาธารณสุขเตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโควิดที่มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่ผ่านมา สปสช.เป็นหน่วยงานสนับสนุนการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดให้เข้าถึงบริการ นอกจากงบประมาณแล้วยังร่วมให้บริการประชาชนผ่านกลไกสายด่วน สปสช. 1330 และร่วมจัดระบบ Home Isolation และ Community Isolation รวมถึงกระจายชุดตรวจ ATK
ทั้งนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดเราต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ใช่ทุกคนจะเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ เพราะผู้ติดเชื้อจะมีจำนวนมาก ผู้ไม่มีอาการสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้โดยระบบ Home Isolation เพียงแต่ต้องได้รับยาและการดูแลติดตามที่จะช่วยความรุนแรงของเชื้อได้” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า หลังจากที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโอมิครอน สปสช.ได้ทำการประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมการดูแลประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสายด่วน สปสช. 1330 ในการรับเรื่องจากประชาชนและประสานการช่วยเหลือ
รวมถึงการเพิ่มช่องทางบริการผ่านระบบออนไลน์ เช่น Line สปสช. @nhso เป็นต้น รวมถึงการจัดระบบ Home Isolation และ Community Isolation ที่จับคู่ติดตามและให้บริการโดยสถานพยาบาล เพื่อให้ประชาชนที่ติดเชื้อเข้าถึงการดูแล
