ผลโพลเผย ประชาชน 77% ห่วงสงกรานต์ กลัวโควิดพุ่ง ชี้ส่วนใหญ่เลือกอยู่บ้าน ย้ำหากคุมไม่ดี มาตรการไม่เพียงพอ อาจติดเชื้อทะลักเป็นแสนได้
วันที่ 25 มี.ค.2565 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวเทศกาลสงกรานต์ว่า จากการสำรวจประชาชนพบว่า ผลสำรวจ Anamai Event Poll วันที่ 13-24 มี.ค. พบว่า 77% กังวล เนื่องจากอาจติดเชื้อจากการรวมกลุ่มในสถานที่ต่างๆ จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศยังสูง และอาจติดเชื้อจากการรวมกลุ่มสังสรรค์ในครอบครัว บ้าน ส่วน 23% ไม่กังวล เพราะมั่นใจป้องกันตนเองได้ดี ไม่ได้ไปสถานที่เสี่ยง และอยากใช้ชีวิตตามปกติ
ส่วนสถานที่ที่กังวลว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุดคือ ร้านอาหาร 61% สถานที่ท่องเที่ยว 55% ห้างสรรพสินค้า 54% สถานที่จัดกิจกรรมอีเวนต์งานสงกรานต์ 53% ขนส่งสาธารณะ 53% ห้องน้ำสาธารณะ 52% ส่วนแผนกิจกรรมที่จะทำช่วงสงกรานต์ ส่วนใหญ่ 50% อยู่บ้าน 77% กังวล การติดเชื้อ ทั้งนี้หากไม่มีการคุมเข้ม อาจมีคนติดสูงสุดในช่วงสงกรานต์ถึงแสนรายได้
ทั้งนี้นายสมชาย ตู้แก้ว ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัยเผยว่า การรวมกลุ่มขนาดใหญ่นั้น จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดงานได้ แต่ห้ามเล่นปาร์ตี้โฟม ปะแป้ง ดื่มหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยปัจจัยที่เอื้อต่อการจัดงานสงกรานต์ในปีนี้ คือ ประชาชนรับวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น เชื้อลดระดับความรุนแรง มีการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเตรียมพร้อมปรับเข้าสู่โรคประจำถิ่น
กิจกรรมรวมกลุ่มที่จัดได้ในครอบครัวอคือ สรงน้ำพระ รดน้ำขอพร รับประทานอาหารร่วมกัน แต่ให้จัดในพื้นที่โล่งระบายอากาศดี สวมหน้ากาก งดกิจกรรมสัมผัสใกล้ชิด งดใช้สิ่งของร่วม ใช้เวลาจัดกิกรรมให้น้อยสุด
ส่วนกิจกรรมที่จัดได้ในชุมชนต้องแจ้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) หรือศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) รับทราบเพื่อกำกับติดตามอย่างเหมาะสม กิจกรรมที่ทำได้ เช่น สรงน้ำพระ ขอให้นำอุปกรณ์ส่วนตัวไปเอง งดนำน้ำที่สรงแล้วไปใช้ต่อ ทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัว
