อนุทิน ย้ำ ตายจากโควิดเป็นกลุ่ม 608 เกือบ 100% ขอมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เห็นชอบสอบสวนโรคอย่างละเอียดกลุ่มรับเข็ม 3 ดับจากโควิด ชี้ พบเพียง 7%

วันที่ 11 พ.ค.2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2565 ว่า ที่ประชุมมีการรายงานความก้าวหน้าแผนการดำเนินงานการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 สู่โรคประจำถิ่น ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังยกเลิกระบบ Test&Go ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เข้าประเทศไทยไม่ต้องกักตัวและตรวจ RT-PCR

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทำให้มีผู้เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นหลายเท่า ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า ซึ่งจะมีการผ่อนปรนมากขึ้น อาจยกเลิกลงทะเบียน Thailand Pass เมื่อถึงเวลาเหมาะสม เพราะคนเดินทางเข้ามาหลายหมื่นคนต่อวันติดเชื้อไม่เกิน 10 คน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เรื่องการฉีดวัคซีนโควิดของไทย ภาพรวมมากกว่า 134 ล้านโดส เป็นเข็มแรก 81% เข็มสอง 74% และเข็มกระตุ้น 38% ยังต้องเร่งฉีดเข็มกระตุ้นมากขึ้น ขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากโควิดเกือบ 100% เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุ มีโรคเรื้อรัง และรับวัคซีนไม่ครบ ทำให้ยิ่งมีความเสี่ยง

อนุทิน ย้ำ ตายจากโควิดเป็นกลุ่ม 608 เกือบ 100% ขอมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เห็นชอบสอบสวนโรคอย่างละเอียดกลุ่มรับเข็ม 3 ดับจากโควิด

อนุทิน ย้ำ ตายจากโควิดเป็นกลุ่ม 608 เกือบ 100% ขอมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เห็นชอบสอบสวนโรคอย่างละเอียดกลุ่มรับเข็ม 3 ดับจากโควิด

นายอนุทิน กล่าวว่า หากรับเข็มสามแล้วเกิน 3 เดือนให้มารับเข็มสี่ได้ทันที ส่วนคนทั่วไปรับเข็มสามครบ 4 เดือนให้มารับเข็มสี่ เพื่อให้กลุ่ม 608 มีภูมิคุ้มกันตลอดเวลา ยิ่งคนรับครบ 2 โดสมาตั้งแต่ พ.ค. 2564 ให้รีบมารับเข็มกระตุ้น

“ที่ประชุมเห็นชอบเพิ่มอีกมาตรการหนึ่ง คือ หากมีผู้เสียชีวิตจากการรับวัคซีนครบ 3 เข็ม และเสียชีวิตจากโควิดจะสอบสวนโรคอย่างละเอียด เพื่อให้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นให้ประชาชนทราบถึงสาเหตุ แต่ปัจจุบันผู้รับวัคซีน 3 เข็ม มีอัตราเสียชีวิตประมาณ 7% ส่วนรับครบ 4 เข็มไม่มีเสียชีวิตเลย การสอบสวนโรคครั้งนี้ เราจะเน้นไปที่เสียชีวิตจากโควิด เพราะหากเสียชีวิตจากปัจจัยอื่น อย่างอุบัติเหตุ ก็ไม่ใช่” นายอนุทิน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน