เลขาฯสมช.ชี้มีแนวโน้มสูงถอดแมสก์ -ขยายเวลาเปิดผับบาร์ ถึงตี 2 หลัง ชัชชาติ จ่อชง ย้ำต้องรอ ศบค. ชุดใหญ่เคาะเท่านั้น ใครจะประกาศโดยพลการไม่ได้

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 6 มิ.ย.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาผ่อนคลายให้ถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่โล่งแจ้ง รวมขอขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจากเวลาเที่ยงคืนเป็นตี 2 ในพื้นที่กรุงเทพฯว่า นโยบายของศบค.ตั้งแต่ช่วงแรก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. มีนโยบายชัดเจนอยู่แล้วว่าให้พยายามผ่อนคลาย ให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ให้ระบบเศรษฐกิจเดินได้

ส่วนเรื่องความปลอดภัย ถ้าสิ่งที่ศบค.ผ่อนคลายไปแล้ว เกิดความไม่รอบคอบก็จะเกิดความเสียหาย ผู้ประกอบอาชีพต่างๆ จะได้รับผลกระทบซ้ำเติม ซึ่งต้องระมัดระวังอย่างมาก

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ ศปก.ศบค. จะมีการประชุมสัปดาห์ละครั้ง ให้ทุกหน่วยงานเสนอปัญหา ข้อพิจารณาต่างๆ ซึ่งศปก.ศบค. จะรวบรวมให้เป็นแนวทางตามที่รัฐบาลกำหนด คือจะต้องให้มีการผ่อนคลายแบบเป็นขั้นเป็นตอนภายใต้ความปลอดภัย

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนการผ่อนคลายเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ไปถึงเวลาตี 2 นั้น เมื่อผ่อนคลายหลายกิจกรรมที่ประกาศไปเมื่อ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา แล้วจะประเมิน 10 วัน ดังนั้น อีกไม่กี่วันเราจะได้เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ ประชาชนที่ได้รับผลประทบ การผ่าฝืน ละเมิดกฎหมาย การให้ความร่วมมือน้อยหรือไม่ให้ความร่วมมือของผู้ประกอบการเป็นอย่างไร ดังนั้น โรดแมปที่วางไว้คือในรอบ 10 วัน จะประชุมเพื่อประเมินและพิจารณาขยายเพิ่ม เช่น หากเป็นไปตามนโยบายทั่วประเทศก็อาจจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมดได้ สถานบริการทั้งหมดที่ตั้งเป้าเอาไว้ จะต้องเปิดบริการได้เหมือนภาวะปกติ ภายใต้มาตรการควบคุมโรค

ดังนั้น เรื่องดังกล่าวจะโยงการถอดหน้ากากอนามัย ซึ่งเราได้ยินกันแล้วว่า จ.ภูเก็ต กรุงเทพฯ อยากเปิดนำร่อง จึงต้องพิจารณาว่า ระหว่างให้ประชาชนประกอบอาชีพได้กันเต็มรูปแบบตามที่นายกฯ และรัฐบาลกำหนดนั้น กับการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำสอง หรือเกิดผลกระทบขึ้นมาอีก เราจะมีวิธีการอย่างไร ซึ่งทุกหน่วยงานจะหารือร่วมกัน เมื่อได้แนวทางแล้วจะนำเสนอที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่

“ถ้าเราดูบรรยากาศถึงปัจจุบัน มีความเป็นไปได้สูงมากเพราะประชาชนให้ความร่วมมือ สถานประกอบการก็ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค แต่ยังมีข้อกังวลข้อเดียวคือวัคซีน เพราะบางพื้นที่มีตัวเลขการฉีดวัคซีนเปอร์เซ็นต์น้อยมาก โดยเฉพาะในบางจังหวัดยังน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม เราเตรียมแผนไว้แล้ว เพียงแต่จะต้องประเมินและพิจารณาว่าทำตามแผนได้หรือไม่” พล.อ.สุพจน์ กล่าว

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เรื่องการถอดหน้ากาก มีข้อกำหนดเป็นกฎหมายกำกับไว้ ฉะนั้น หากผ่านการพิจารณาจากศปก.ศบค. หรือ มีข้อเสนอจากส่วนราชการต่างๆ แล้ว จะเสนอไปยังศบค. เพื่อแก้กฎหมาย แก้ข้อกำหนดที่ออกโดยพ.ร.ก. ซึ่งขณะนี้ข้อกำหนดฉบับที่ 24 กำกับไว้เรื่องหน้ากากอนามัย ใครจะไปสั่งให้ถอดโดยพลการไม่ได้ ยืนยันว่าอยากให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพตามปกติของกฎหมายปกติ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนมากกว่าการเร่งให้ถอดหน้ากากอนามัย โดยจะพิจารณากฎหมายควบคู่กันไป

ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ประชาชนไปฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 5 ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดโอกาสให้ผู้ต้องการวัคซีนเข็มที่ 5 ที่สถานีกลางบางซื่อได้แล้ว ด้วยเหตุผลเป็นการเฉพาะ เช่นผู้ต้องการไปต่างประเทศ เนื่องจากบางประเทศกำหนดว่าบูสเตอร์เข็มสุดท้ายต้องเป็นวัคซีน mRNA ดังนั้น ผู้ที่เคยรับวัคซีนซิโนแวค แอสตร้าเซเนก้า ต้องไปหาฉีดวัคซีน mRNA และอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการให้ไปฉีดคือกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่จำเป็น ก็ไปขอรับการฉีดได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน