มูลนิธิอภัยภูเบศร จับมือคณะเภสัชฯ มอ. พัฒนา “ฟ้าทะลายโจร” สูตรดรายไซรัปลดขม 70% ให้เด็กกิน 1 ซอง เร่งศึกษาความคงตัว ก่อนยื่นขึ้นทะเบียน

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.65 ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางยามาก มีสารสำคัญ “แอนโดรกราโฟไลด์” ปริมาณสูง สามารถนำมาพัฒนาใช้บรรเทาหรือรักษาอาการ เช่น เจ็บคอ ผิวหนังอักเสบ อาการคัน เป็นต้น

สามารถนำมาใช้ในเด็ก ซึ่งฟ้าทะลายโจรมีงานวิจัยพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องหวัด ซึ่งเด็กเป็นหวัดกันบ่อย ทางมูลนิธิอภัยภูเบศร จึงร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) พัฒนา “ฟ้าทะลายโจรดรายไซรัป” เพื่อให้เด็กรับประทานได้ง่ายขึ้น ขณะนี้กำลังศึกษาความคงตัว แต่เบื้องต้นประสิทธิภาพดี คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

เมื่อถามว่า ต้องศึกษาทางคลินิกเพิ่มเติมหรือไม่ ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า จริงๆ มีงานวิจัยและมีการทดสอบปริมาณการใช้ของสารแอนโดรกราโฟไลด์ในเด็กอยู่แล้ว สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน เพราะใช้ในระดับคลินิกมาก่อน แต่ขณะนี้ต้องรอผลการศึกษาความคงตัว และจะนำเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพร ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562

“ฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลบรรเทาอาการโควิด หวัด ท้องเสีย แต่ยังศึกษาเรื่องลำไส้แปรปรวน ซึ่งมีศักยภาพอีกมาก โดยแค่สมุนไพรตัวเดียวสามารถแก้โรคภัยไข้เจ็บได้ ยังนำมาพัฒนาเป็นยากันยุง เนื่องจากบางคนอาจไม่ชอบกลิ่นตะไคร้หอม เพราะมีกลิ่นฉุน จึงนำสารสกัดฟ้าทะลายโจรมาสกัดแอลกอฮอล์ และพัฒนาต่อในเรื่องกลิ่น ซึ่งมีการศึกษาเช่นกันว่าป้องกันยุงได้” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

ด้าน ผศ.ภก.จินดาพร ภูริพัฒนาวงษ์ คณะเภสัชศาสตร์ มอ. กล่าวว่า ฟ้าทะลายโจรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปกติใช้ลดไข้ แก้เจ็บคอ อาการท้องเสีย ซึ่งจะมีขนาดระบุการรับประทาน ช่วงที่มีโควิดก็สามารถใช้บรรเทาอาการติดเชื้อได้ โดยมีปริมาณที่มากขึ้นตามข้อบ่งชี้

ส่วนการที่ให้เด็กรับประทานจะค่อนข้างยาก เพราะฟ้าทะลายโจรมีรสขม ทำให้เด็กๆ ไม่รับประทาน และเด็กรับประทานยาเม็ดหรือแคปซูลยาก จึงต้องลดความขมเพื่อให้สามารถทานได้ แต่การทำเป็นยาน้ำ ทำให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ อาจลดลง จึงเป็นโจทย์ที่เราต้องพัฒนาให้ได้สารสำคัญที่เหมาะสม ซึ่งมีงานวิจัยของสวีเดนระบุว่า เด็กวันหนึ่งต้องทานสารสำคัญจากฟ้าทะลายโจรไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อวัน

“ทีมศึกษานำฟ้าทะลายโจรมาสกัดให้ได้สารสกัด โดยใบ 1 กิโลกรัมจะได้สารสกัด 100 กรัม ความขมจะเพิ่มเป็น 10 เท่า จึงต้องพัฒนาให้สารสกัดตัวนี้มีความขมน้อยลงที่เด็กกินได้ จึงพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ออกมาเป็นผงแห้งไลโปโซมสารสกัดฟ้าทะลายโจร ทำให้ความขมลดลง 70% สารแอนโดกราโฟไลด์ยังอยู่ไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อวันที่เด็กรับประทาน โดยนำผงยามาทดลองตามสูตรต่างๆ เพื่อให้ออกมาเป็นฟ้าทะลายโจรดรายไซรัป” ผศ.ภก.จินดาพร กล่าว

ผศ.ภก.จินดาพร กล่าวว่า ลักษณะของผลิตภัณฑ์ คือ 1 ซองจะมีปริมาณสารแอนโดกราโฟไลด์ 10 มิลลิกรัม การรับประทานของเด็ก คือ กินครั้งละ 1 ซอง นำไปละลายกับน้ำสะอาด กินให้หมดซอง กิน 3 ครั้งหลังอาหาร เช้า เที่ยง และเย็น ดังนั้น เด็กจะได้รับยาในปริมาณที่กำหนดคือ วันละไม่เกิน 30 มิลลิกรัม เป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เด็กกินยาได้ง่ายที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน