‘หมออุดม’ เคลียร์ชัด เปิดช่อง รพ.-คลินิกซื้อยาต้านโควิด แต่ต้องรอ อย.ปลดล็อก ผู้ป่วยต้องไปพบหมอมีใบสั่งแพทย์ จึงจะซื้อไปจากร้านขายยาได้
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียาต้านไวรัสรักษาโควิดกับร้านขายยา ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยังจัดหายาต้านไวรัสให้ หากเข้าระบบสายด่วน 1330 ก็จัดส่งยาถึงบ้าน แต่ยังมีความยุ่งยาก เราจึงเปิดให้ทุก รพ.ทั้งรัฐและเอกชน จัดหายาต้านไวรัสได้เองและยังต้องจ่ายยาตามแนวทางเวชปฏิบัติ แต่เราคิดว่าโควิดยังอยู่อีกนาน เราต้องการให้ประชาชนสะดวกและเข้าถึงมากที่สุด
เราคิดต่อไปอีกขั้นคือคลินิกซึ่งมีแพทย์ เพราะยาต้องให้แพทย์สั่งตามดุลยพินิจ เราจึงให้คลินิกซื้อยาได้ด้วย แต่ไม่ได้แปลว่าผู้ป่วยจะไปซื้อยาต่อจาก รพ.หรือคลินิกได้เอง ยังต้องมีใบสั่งแพทย์ ต้องถูกประเมินโดยแพทย์แล้วสั่งจ่ายยา
ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวต่อว่า ส่วนอีกขั้นคือเมื่อเราจะประกาศวันที่ 1 ต.ค.นี้ ให้โรคโควิด19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เหมือนกับโรคระบาดทั่วไป มันควรไปถึงร้านขายยาได้ด้วย คือร้านขายยาสามารถจัดซื้อยาต้านไวรัสจากทางบริษัทยาได้ แต่ตรงนี้ต้องรอ อย.ปลดล็อกก่อน และสามารถจำหน่ายได้
โดยผู้ป่วยต้องมีใบสั่งแพทย์ ย้ำว่าแม้ร้านขายยาจะจำหน่ายยาต้านไวรัสได้ แต่เมื่อติดเชื้อแล้ว สิ่งที่ต้องไปหาลำดับแรกไม่ใช่ร้านขายยาเพื่อซื้อยา แต่ต้องไปพบแพทย์ก่อน หากมีใบสั่งแพทย์ถึงจะมาซื้อไปจากร้านขายยาได้ ตรงนี้จะทำให้ควบคุมยาง่ายขึ้น และไม่เกิดการใช้ในทางที่ผิด แต่หากไปตามคลินิกที่มีแพทย์อยู่ก็จ่ายยาได้เลยเหมือนกัน
“ต้องสร้างความเข้าใจว่าไม่ใช่ผู้ป่วยโควิดทุกคนต้องกินยา อาการเล็กน้อย ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องกินยา เพราะไม่คุ้มค่ากัน และอาจมีผลเสียด้วย เรามีแนวทางเวชปฏิบัติอยู่แล้วว่าอาการอย่างไร มีความเสี่ยงใด ต้องใช้ยาอย่างไร ทำให้เกิดความคุ้มค่าและได้ประโยชน์จริงๆ ไม่ได้มีข้อติดขัดเรื่องงบประมาณ ยาตอนนี้มีเพียงพอต่อการใช้
ตอนนี้ที่คนบอกว่า ไปแล้วไม่ได้ยา ยาไม่พอ เพราะผู้ป่วยไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้องรับยา หรือคนกังวล ตระหนกไปซื้อตุนไว้ ตอนนี้ต้องทำความเข้าใจใหม่ ไม่ได้เหมือนไข้หวัดที่ไปร้านขายยาและซื้อยาเลย เพราะยาปฏิชีวนะในการดูแลรักษาไข้หวัด ไม่ได้มีฤทธิ์หรือผลข้างเคียงมากเท่ากับยาต้านไวรัสโควิด ซึ่งมีผลต่อตับและไต จึงไม่ได้เปิดฟรีให้ไปซื้อโดยไม่มีใบสั่งแพทย์” ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว
ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.อยู่ระหว่างพัฒนาระบบการลงทะเบียนให้ร้านขายยา ที่จะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายคืนคนไข้ได้ ทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มการเข้าถึง เพิ่มความสะดวกให้ผู้ป่วย สอดคล้องกับโรคที่กำลังจะเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และต่อไปก็จะเป็นโรคประจำถิ่น ตนเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลและสธ.ทำ เกิดจากการเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง และเชื่อว่าทำได้หากมีระบบรองรับ อยากให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ใช่ไปหาซื้อมาตุนไว้ก่อน เตรียมเหมือนยาไข้หวัด เพราะยาคนละระดับกับไข้หวัด
