ปลัด สธ. เปิดไทม์ไลน์ เบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด 19 ให้บุคลากรทางการแพทย์สายวิชาชีพ-สายสนับสนุน คาดเบิกจ่ายตั้งแต่ 29 ส.ค. แล้วเสร็จ 30 ก.ย.นี้

11 ส.ค. 66 – นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจาก ครม.มีมติเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบอนุมัติค่าตอบแทนเสี่ยงภัยจากงบกลาง วงเงิน 2,955.95 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในและนอกสังกัด สธ. ในช่วง ก.ค. 64 – ครึ่งเดือนแรก มิ.ย. 65

สธ.ได้กำหนดขั้นตอนและแผนการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณ 2566 โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรค่าเสี่ยงภัยโควิดแล้ว

คาดว่าสำนักงบประมาณจะอนุมัติและโอนเงินจัดสรรมายังสำนักงานปลัด สธ. ในช่วงวันที่ 9-18 ส.ค. 66 จากนั้นกองยุทธศาสตร์และแผนงาน จะขออนุมัติจัดสรรต่อปลัด สธ. และแจ้งการจัดสรรไปยังกองคลังและกองสาธารณสุขฉุกเฉิน ช่วงวันที่ 21-22 ส.ค. 66

นพ.โอภาสกล่าวว่า ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยในส่วนของหน่วยงานในสังกัด สธ. เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป ทางกองสาธารณสุขฉุกเฉิน จะเป็นหน่วยดำเนินการจัดสรรและแจ้งกองคลังโอนงบประมาณไปยัง สสจ.ทั้ง 76 แห่ง เพื่อตรวจสอบเอกสารเบิกจ่าย ทำเรื่องขออนุมัตินายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และโอนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้กับให้กับผู้ปฏิบัติงานโดยตรง

ส่วนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของหน่วยงานภายนอกสังกัด สธ. ซึ่งมีทั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กองคลังจะเป็นหน่วยดำเนินการตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายและขออนุมัติปลัด สธ. เพื่อโอนงบประมาณไปยังผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานภายนอกต่อไป

คาดว่าทุกหน่วยงานจะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ 29 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป และจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณในวันที่ 30 ก.ย. 2566 พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ให้รัฐมนตรีว่าการ สธ.และสำนักงบประมาณทราบภายใน 15 วันทำการถัดไป

“ยืนยันว่าจะพยายามเร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด 19 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในและนอกสังกัด สธ.โดยเร็วที่สุด

ส่วนที่ยังค้างจ่ายในรอบการปฏิบัติงานช่วงครึ่งเดือนหลังของ มิ.ย. – ก.ย. 2565 ซึ่งสิ้นสุดการเป็นโรคติดต่ออันตราย จะเตรียมทำข้อเสนอขอรับการสนับสนุนในปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3,745 ล้านบาท ต่อ ครม.ชุดใหม่ต่อไป” นพ.โอภาสกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน