แม่ร่ำไห้รับศพด.ช.4ขวบ เหยื่อพ่อโหด สากกระเบือฟาด กะโหลกแตก

จากกรณีที่ด.ช.เอ(นามสมมุติ) อายุ 4 ปี ถูก นายจตุพล โพธิกุล อายุ 41 ปี พ่อแท้ๆซึ่งเมายาเสพติดและเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้สากกระเบือตีศีรษะจนเสียชีวิตภายในห้องเช่า ย่านซอยเพชรเกษม 36 ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ภาษีเจริญ นำกำลังไปจับกุมตัวนายจตุพล ได้ที่บริเวณห้องพักดังกล่าวในสภาพคล้ายผู้ติดยาเสพติดอย่างหนัก จนมีอาการประสาทหลอน

อ่านข่าว รวบพ่อโหด ใช้สากกะเบือ กระหน่ำฟาด ลูกชายวัย4ขวบ ดับสลด แม่เด็กเผยสาเหตุ

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 เม.ย. ที่ สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.ยงยุทธ ทองเต็ม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัวนายจตุพล ผู้ต้องหาอยู่ในห้องขัง โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลห้องขังเฝ้าอยู่อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพราะกลัวว่าผู้ต้องหาจะทำการทำร้ายตัวเอง

เนื่องจากผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเหม่อลอยและไม่ยอมพูดคุยกับใคร โดยเมื่อช่วงเช้าได้นำตัวผู้ต้องหาออกมาพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อทำประวัติ แต่ยังไม่ได้สอบปากคำเพราะจากการสังเกตอาการและสภาพจิตใจสภาวะของสติยังไม่น่าจะให้การใดๆได้ คงต้องรอให้ผู้ต้องหามีสภาพดีขึ้นกว่านี้ก่อนถึงจะนำตัวมาให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ

เบื้องต้นผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหา พบมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 2 ข้อหากับผู้กระทำผิด คือ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย 2.เสพยาเสพติดประเภทที่ 1(ไอซ์) โดยในวันพรุ่งนี้(18 เม.ย.)พนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลอาญาธนบุรี

นอกจากนี้ในส่วนของแม่เด็กก็ยังไม่สามารถติดต่อให้เข้ามาสอบปากคำได้ คาดว่ายังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.อัญชลี วันดี ญาติของเด็กเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนเองนั่งอยู่ภายในบ้านซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่น้องเสียชีวิต มีพนักงานของหอพักวิ่งเข้ามาบอกว่าหลานถูกทำร้าย ตนเองจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูที่ห้องเกิดเหตุ พอมาเห็นสภาพหลานถึงกับเข่าอ่อน

รีบตั้งสติก่อนจะเร่งนำเอาหลานที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสมีเลือดเต็มตัวส่งโรงพยาบาล แต่หลานทนพิษบาดแผลไม่ไหวและมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลประมาณ 19.00 น. ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ก่อเหตุจะพักอยู่กับลูกและภรรยากันสามคน แต่มาวันเกิดเหตุนายจตุพลอยู่กับลูกสองคนส่วนแม่นั้นออกไปขายของ

เท่าที่สังเกตเห็นเขาก็รักลูกมาก ทุกครั้งที่จะออกไปทำงานก็จะนำลูกมาฝากไว้กับตนเองให้เลี้ยงเป็นประจำ แต่ช่วงสองวันที่ผ่านมารู้สึกผิดสังเกตเพราะไม่ได้นำลูกมาฝากให้ตนเองเลี้ยง จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น

ต่อมาเวลา14.00 น. นางอรวิสา ศุภวุฒิสกุล อายุ 41 ปี พร้อมญาติๆเดินทางไปรับศพน้องเอ(นามสมมุติ) อายุ4 ขวบ ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากกะโหลกศีรษะแตก โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นางอรวิสา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับสามี ทะเลาะกันและมีปากเสียงอย่างรุนแรงเกี่ยวกับปัญหาที่สะสมมานานหลายๆเรื่อง จนตนเกิดความรำคาญเดินหนีออกจากบ้านไป โดยไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูกเพราะปกตินายจตุพล จะรักลูกมาก ไม่เคยตีลูก เคยแต่ทำร้ายตนคนเดียว

สามีไม่เคยถูกจับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ตนก็เชื่อว่าสามีเป็นคนลงมือ เพราะในห้องมีแค่สามีอยู่กับลูกเท่านั้น ไม่น่าจะเป็นฝีมือคนอื่น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนจะเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ตนยังรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ขอพูดอะไรมาก จากนี้จะนำศพน้องไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดกำแพง ถนนบางแวกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน