จากกรณี นายโอภาส ชูคง อายุ 47 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเข้าแก้มขวาทะลุท้ายทอย ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตที่ ร.พ.ไชยา เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 114/8 หมู่ 4 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านอดีตภรรยาของผู้ตาย เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย. ที่วัดสโมสร หมู่ 4 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ญาติพี่น้องและกลุ่มเพื่อนได้ประกอบพิธีเผาจำลองศพ นายโอภาส ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นญาติผู้ตาย ติดใจ มีความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับการตายและฉนวนเหตุหลายอย่าง รวมไปถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 มิ.ย. ญาติได้นำตัว ด.ช.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหลานอดีตภรรยาของผู้ตาย มามอบตัวที่ สภ.ไชยา เบื้องต้นให้การอ้างว่า เป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธยิง นายโอภาส สาเหตุเนื่องจากโกรธแค้นผู้ตาย ที่เคยมีเหตุทะเลาวิวาทกันมาก่อนและเคยถูกผู้ตายทำร้ายตนและน้าสาว ซึ่งเป้นภรรยาของผู้ตาย

นางชวพร ปลื้มใจ อายุ 44 ปี น้องสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จดทะเบียนหย่ากับอดีตภรรยา เพียงแต่ในนามเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น แต่ยังมีการไปมาหาสู่กันปกติ และมีลูกกับภรรยา 2 คน ในวันเกิดเหตุทราบว่าขณะที่ผู้ตาย พักอยู่บ้านเช่าในตลาดไชยา อดีตภรรยาได้โทรและไลน์ตามให้ไปหาที่บ้านที่เกิดเหตุ อยู่ห่างกันประมาณ 20 กม. กระทั่งถูกยิงเสียชีวิต

เบื้องต้นทราบว่าอดีตภรรยา ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะเกิดเหตุอยู่บ้านกับหลานชาย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ โดยยืนพูดคุยกับผู้ตายหน้าบ้าน ได้มีคนร้ายยิงใส่ผู้ตาย ส่วนหลานชายหายไป ซึ่งขัดกับพยานแวดล้อม ที่บอกว่าขณะเกิดเหตุมีผู้ชายอยู่ที่บ้านประมาณ 3-4 คน และได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดร้องขึ้นก่อนจะมีเสียงปืน และมีรถเก๋งขับออกจากบ้านเกิดเหตุ อีกทั้งพบว่าโทรศัพท์ผู้ตาย มีการลบข้อความไลน์และเบอร์โทรติดต่อทิ้ง

นอกจากนั้นกล้องวงจรปิดหน้าบ้านเกิดเหตุไม่สามารถดูได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สนใจติดตามดูกล้องวงจรปิดจากบริเวณใกล้เคียงหรือสอบพยานแวดล้อมเพิ่ม แม้กระทั่งทางฝ่ายญาติอดีตภรรยา นำตัว ด.ช.โอ๋ ที่รับอ้างว่าเป็นคนร้ายเข้ามอบตัว แต่ไม่มีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุแต่อย่างใด ไม่มีการทำแผนประกอบรับสารภาพ เมื่อมามอบตัวตำรวจก็ไม่แจ้งให้ญาติทราบ

ขณะนี้ ตนและญาติ ไม่เชื่อในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยา และไม่เชื่อว่า ด.ช.โอ๋ จะเป็นคนร้ายตัวจริง เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 2-3 คน ส่วน ด.ช.โอ๋ น่าจะเป็นแพะที่ออกมารับผิดแทนผู้ก่อเหตุตัวจริง จึงอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนตาย และให้มีการรื้อคดีสอบสวนใหม่ทั้งหมด

เพราะเชื่อว่าจะต้องมีการวางแผนกันมาก่อน เนื่องจากช่วงเวลาตั้งแต่พี่ชายขับรถจากบ้านตัวเองไปจนถึงบ้านอดีตภรรยา จนคนร้ายลงมือก่อเหตุมันรวดเร็วเกินไป และหลังจากนี้จะจะนำศพของพี่ชายไปเก็บไว้ และจะไม่เผาจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมคนร้ายตัวจริงได้ และจะดำเนินร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม

ด้าน พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว ได้มีการพูดคุยกับญาติผู้ตายแล้ว และทราบว่าญาติติดใจในเรื่องคดี ทั้งนี้ได้สั่งดำเนินการทางพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทั้งในเรื่องของสำนวนและหายพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดี เพื่อให้ทางญาติผู้ตายสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านคดี สาเหตุ รวมถึงคนร้ายที่ก่อเหตุ ทั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และดำเนินการโปร่งใส่ตรงไปตรงมาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน