ลูกคลุ้มคลั่ง คว้าค้อนกระหน่ำ ทุบหัวพ่อ เสียชีวิตคาบ้าน เผยฉุนขอข้าวเปลือกไปขายหาเงินซื้อยาบ้าไม่ได้ ตำรวจคุมตัวทำแผน-ดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 มิ.ย. ได้รับรายงานงานจาก พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ยี่วาศรี ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง ว่ารับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตบริเวณหน้ายุ้งฉางข้าว บ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่ ติดกับถนนทางออกบ้านหนองขอนแก่น-หนองอีบุตร ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ จึงรุดไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยผึ้ง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ที่เกิดเหตุพบศพ นายสวัสดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นดินหน้ายุ้งฉางข้าว สภาพศพสวมเสื้อสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกของแข็งตีที่บริเวณศีรษะเป็นแผลและศีรษะยุบจนเสียชีวิต ใกล้กันพบค้อนตอกตะปูเปื้อนเลือดตกอยู่และท่อนไม้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง

ตำรวจคุมตัวลูกคลั่งฆ่า ทุบหัวพ่อ เสียชีวิตคาบ้านไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ตำรวจคุมตัวลูกคลั่งฆ่า ทุบหัวพ่อ เสียชีวิตคาบ้านไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายอัครเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต และหลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ ขณะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักเลขที่ 73 บ้านหนองอีบุตร ม.1 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ จึงนำตัวมาสอบสวน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 มิ.ย. นายสวัสดิ์ได้พักอาศัยอยู่บ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่หลังเกิดเหตุ ส่วนนายอัครเดช ซึ่งสติไม่ดีเนื่องจากเสพยาบ้าจนหลอนและมีประวัติในการรักษาทางประสาท ได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อจะมาเอาข้าวเปลือกจากยุ้งฉางไปขายเพื่อซื้อยาเสพติดมาเสพ

สอบสวนทราบต่อว่า ระหว่างนั้นนายอัครเดชได้ขอกุญแจเปิดยุ้งฉางจากนายสวัสดิ์ แต่นายสวัสดิ์ไม่ให้จึงเกิดมีปากเสียงกัน ทำให้นายอัครเดชอาศัยจังหวะที่นายสวัสดิ์เผลอ จึงใช้ค้อนทุบบริเวณศีรษะของนายสวัสดิ์หลายครั้งจนล้มลงแน่นิ่งเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะนำกุญแจไปเปิดและนำข้าวเลือกไปขาย 2 รอบ

บริเวณที่เกิดเหตุฆ่าพ่อ

บริเวณที่เกิดเหตุฆ่าพ่อ

สอบสวนทราบอีกว่า ต่อมาหลานสาวผู้เสียชีวิตมาพบกลายเป็นศพ และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นนายอัครเดช ให้การว่าก่อเหตุจริง แต่ยังให้การวกวนและยังอยู่ในอาการหลอน

จากนั้น พล.ต.ต.สมนึก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากการขับรถจักรยานยนต์มายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเข้าไปขอกุญแจกับพ่อแล้วมีปากเสียงกัน และใช้ค้อนทุบศีรษะพ่อจนเสียชีวิตและนำเอาข้าวเปลือกไปขายเพื่อซื้อยาเสพติด

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ พบว่าเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาท เนื่องจากเสพยาเสพติดมานาน แต่รักษาออกมาก็กลับมาเสพและอาการหลอนอีก บ่อยครั้งพูดจาไม่รู้เรื่อง กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เนื่องจากเกิดอาการหลอนและพ่อขัดใจ ซึ่งเหตุการนี้มีผู้เสียชีวิต

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวต่อว่า อยากฝากเตือนไปยังประชาชนหากมีคนในครอบครัวมีอาการและพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นอีก

ตำรวจคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ นายวรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พี่ชาย ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า น้องชายมีอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวพาไปรักษาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีอาการจิตหลอนอาละวาดมันไม่มีใครเข้าใกล้ได้ และล่าสุดมาก่อเหตุฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าตัวเองในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าบุพการีถึงแก่ความตาย พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน