สลด พลเมืองดี เข้าช่วยเหลือเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ หน้าร้านหนองคาย ลาบก้อย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กลับถูกหนุ่มคนขับยิงเสียชีวิต เจ้าของร้านบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 3 ก.ค. พ.ต.ต.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.พลูตาหลวง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 2 ราย บริเวณหน้าร้านหนองคาย ลาบก้อย ริมถนนสุขุมวิท ขาเข้าระยอง ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ สมใจ ผกก.สภ.พลูตาหลวง, พ.ต.ท.วัชรชัย มวยมั่น รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ที่เกิดเหตุพบร่าง นายฤทธิรงค์ ยะสะวุฒิ อายุ 33 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.พลูตาหลวง ถูกปืนยิงเข้าบริเวณหน้าท้อง 2 นัด หน้าอก 1 นัด และแขนขวา 2 นัด นอนจมกองเลือด โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

รถกระบะของผู้ก่อเหตุที่พลิกคว่ำ ก่อนยิง พลเมืองดี เสียชีวิตหน้าร้านหนองคาย ลาบก้อย

รถกระบะของผู้ก่อเหตุที่พลิกคว่ำ ก่อนยิง พลเมืองดี เสียชีวิตหน้าร้านหนองคาย ลาบก้อย

ใกล้กันพบผู้ก่อเหตุนอนหมดสติ ไม่รู้สึกตัวในอาการคล้ายคนเมาสุรา ทราบชื่อคือ นายจิรัฎฐ์ กตัญญู อายุ 23 ปี ชาวจ.ตรัง โดยมี น.ส.สุทินา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี แฟนสาวนั่งอยู่ข้างตัว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พลเมืองดีได้นำร่าง นายอดุลย์ ชันแสง อายุ 49 ปี เจ้าของร้านหนองคาย ลาบก้อย ผู้บาดเจ็บอีกราย ถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด ไปส่งโรงพยาบาลพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปืน ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก, ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 5 ปลอก, หัวกระสุน 1 ลูก และลูกกระสุนอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ห่างไป 5 เมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ ตอนเดียว สีเทาดำ ทะเบียน บพ-612 ตรัง ของผู้ก่อเหตุ สภาพพลิกคว่ำตะแคงข้างอยู่หน้าร้านหนองคาย ลาบก้อย

ปลอกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ

ปลอกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม พันจ่าเอก สมศักดิ์ ลิ่มสกุล อายุ 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายจิรัฎฐ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถกระบะ มาพร้อมแฟนสาว ก่อนจะประสบเหตุเสียหลักพลิกคว่ำ หน้าร้านหนองคายลาบก้อย ซึ่งตนนั้นได้นั่งอยู่ภายในร้านจึงได้ออกไปช่วยเหลือโดยมี นายอดุลย์ออกไปด้วยกันพร้อมกับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

พันจ่าเอก สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนั้นนายฤทธิรงค์ได้ขับจักรยานยนต์มาตรวจสอบอุบัติเหตุ ซึ่งพวกตนและผู้ตายก็ได้ช่วยกันนำตัวผู้ก่อเหตุและแฟนสาวออกมาจากตัวรถ ซึ่งก็ยังพูดคุยกันดี ๆ ไม่น่าจะมีอะไร ตนจึงขอตัวเดินเข้าไปในร้าน ขณะนั้นแฟนสาวของผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์ตามเพื่อน เพื่อมารับกลับบ้าน โดยมีเจ้าของร้านและผู้ตายช่วยกันพาตัวผู้ก่อเหตุไปขึ้นรถเก๋ง

แฟนสาวของผู้ก่อเหตุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แฟนสาวของผู้ก่อเหตุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“เสี้ยววินาทีนั้น ผมก็ได้ยินเสียงปืนจำนวนหลายนัด จึงรีบวิ่งออกไปดูก็พบว่าเจ้าของร้านและอาสาสมัครตำรวจบ้าน ถูกนายจิรัฎฐ์ใช้อาวุธปืนยิงจนล้มลงไปนอนได้รับบาดเจ็บ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึงและเข้าระงับเหตุได้” พันจ่าเอก สมศักดิ์ กล่าว

ด้าน น.ส.สุทินา ให้การว่า ตนและแฟนหนุ่มได้ไปนั่งดื่มสุรากับที่บ้านพ่อของตน ในตัวอ.สัตหีบ ก่อนจะเดินทางกลับบ้านพัก ขณะนั้นรถกระบะเกิดเสียหลักพลิกคว่ำ ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยเหลือออกมาจากตัวรถ ตนจึงโทรศัพท์หาเพื่อนมารับเพื่อจะกลับบ้านพัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านลาบก้อย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านลาบก้อย

น.ส.สุทินา ให้การต่อว่า ขณะนั้นตนได้เดินไปขึ้นรถเพื่อน โดยแฟนหนุ่มมีพี่เจ้าของร้านที่ออกมาช่วยและพี่อาสาสมัครตำรวจบ้านช่วยกันพาตัวมาขึ้นรถ ก่อนที่ตนจะได้ยินเสียงปืน จึงได้หันไปดูก็พบว่ามีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น ซึ่งตนก็ไม่เห็นจังหวะที่ยิงกันแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเราได้รับแจ้งเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บ ขณะนั้น ผู้ตายซึ่งเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านได้ยินวิทยุ จึงขับรถจักรยานยนต์ออกไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของเรากำลังไปสนับสนุนในที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่า อาสาสมัครตำรวจบ้านถูกอาวุธปืนยิงบาดเจ็บ และยังมีเจ้าของร้านถูกยิงอีก 1 ราย จึงเข้าทำการระงับเหตุและสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่เหตุพร้อมอาวุธปืน

นายฤทธิรงค์ ยะสะวุฒิ อายุ 33 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.พลูตาหลวง ผู้ตาย

นายฤทธิรงค์ ยะสะวุฒิ อายุ 33 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.พลูตาหลวง ผู้ตาย

พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งผู้ตายเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านที่มาช่วยงานธุรการ ขับรถสายตรวจ รถพนักงานสอบสวนที่โรงพักเป็นประจำ เวลามีอุบัติเหตุหรือได้ยินวิทยุก็จะออกมาช่วยงานอย่างสม่ำเสมอ โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนยิงผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และกระสุนปืนยังถูกผู้เสียหายได้รับอันตายบาดเจ็บ เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ซึ่งจะได้มีการสอบสวนพยานและผู้ก่อเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน