จากกรณี นายประทาน หรืออ้วน วังสอน อายุ 50 ปี ก่อเหตุล่อลวงใช้มีดจี้ ด.ญ.วัย 11 ขวบ ไปขืนใจในวัดร้าง ต่อหน้าประธาน ท้ายหมู่บ้านหนองหญ้าปล้อง ต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ก่อนจะใช้มีดจี้ไปข่มขืนต่อที่กระท่อมปลายนา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังบังคับให้เด็กกินเหล้าขาว และยัดยาบ้าเข้าไปในปากอีกด้วย ก่อนที่เด็กจะหลบหนีออกมาได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ล่าหนุ่มหื่น มีดจี้ ด.ญ.วัย 11 ขืนใจ หน้าพระประธาน ก่อนลากไปลงมือซ้ำที่กระท่อม
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ล่าสุดวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเกิดเหตุ (16 ส.ค.) นายประทาน ได้เดินทางมาที่บ้านของเด็กหญิง แล้วมอมสุราผู้เป็นพ่อจนหลับ จากนั้นทำทีออกอุบายหลอกเด็กหญิงว่า จะพาไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ก่อนพาซ้อนท้ายจักรยานออกไป
กระทั่งมาถึงวัดร้างก็ได้ใช้กำลังบังคับ และใช้มีดจี้ก่อนลงมือขืนใจ ซึ่งเด็กก็ดิ้นรนขัดขืน แต่กลับถูกบีบคอ จากนั้น นายประทาน ก็ใช้มีดจี้บังคับพาไปที่กระท่อมปลายนาท้ายหมู่บ้าน แล้วลงมือก่อเหตุอีกครั้ง หลังจากนั้นช่วงค่ำผู้เป็นพ่อตื่นจากเมาสุรามาก็ไม่พบลูกสาว จึงช่วยกันออกตามหา กระทั่งไปพบตัวดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสว่า นายประทาน ได้หลบหนีเข้าป่าไป ในจุดป่าภูผาแดง พื้นที่รอยต่อ อ.แก้งคร้อง จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแข่น จึงได้จัดกำลังออกไล่ล่าตัว เนื่องจากชาวบ้านหวาดผวาเป็นอย่างมาก เพราะ นายประทาน เคยก่อเหตุลักษณะนี้กับคนในหมู่บ้านหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือน
ต่อมา พ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจาก บก.ภ.จว.ชัยภูมิ ช่วยลงไปเสริมกำลังช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสังข์, ผู้นำท้องถิ่น เพื่อเร่งติดตามตัว นายประทาน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
