เชือด4ข้อหาหนัก! บิ๊กไบก์ปืนขู่วิศวกร-เพื่อนชกหน้า พลเมืองดีอ้างตร.ช่วยระงับเหตุซวยด้วย

จากกรณี นายจักกริช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี วิศวกรบริษัทเอกชน เข้าแจ้งตำรวจสภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกชายขับขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าขวางกลางถนน ขณะขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์กลับบ้านพัก แล้วถูกอาวุธปืนจี้ศีรษะ ก่อนมีเพื่อนชายคู่กรณีขับตามมาชกหน้ากลางดึกวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดคดีนี้ วันที่ 28 ต.ค.2563 ที่สภ.ปากเกร็ด นายจักกริช เดินทางเข้า พ.ต.อ.จักรพงศ์ ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ร.ต.อ.อิศราวุฒิ นาคยา รองสารวัตร(สอบสวน) เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ต่อมา นายประดิษฐ์ อายุ 30 ปี ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจเข้าไประงับเหตุแล้วโชว์อาวุธปืนที่พกติดตัว นายธงชัย อายุ 31 ปี ชายคู่กรณีขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ และ นายภูวนัย อายุ 31 ปี ชายขับรถเก๋งสีดำที่ชกหน้านายจักกริช ทยอยกันเข้าพบตำรวจ เจ้าหน้าให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันต่อหน้าใช้เวลา 1 ชั่วโมงไม่สามารถตกลงกันได้ โดยนายจักรกริช ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ปิดคดีหัวร้อน

 

นายจักกริช เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนขี่รถบิ๊กไบก์กับเพื่อนที่เข้ามาทำร้าย ต้องเอาอาวุธปืนออกมาจ่อศีรษะข่มขู่ด้วย ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการขับขี่รถบนท้องถนนแค่นั้นเอง ไม่มีสาเหตุอื่น ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับคนอื่นๆอีก

ปิดคดีหัวร้อน

 

ด้านนายธงชัย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนกับเพื่อนกำลังไปกินข้าวบริเวณหัวถนนท่าน้ำปากเกร็ด ระหว่างทางมาเจอคู่กรณีขับปาดหน้าจนรถเกือบเสียหลักล้ม แต่คู่กรณีขับไปอย่างไม่สนใจ จึงขี่รถตามขวางหน้าเพื่อให้จอดรถลงมาพูดคุยกัน แต่คู่กรณีกลับขับรถพุ่งชนเมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงชักอาวุธปืนเดินเข้าไปหา ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้เอาปืนจ่อหัวตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน และคนที่ทำร้ายคือเพื่อนที่ขับรถเก๋งตามมา ส่วนที่มีข่าวว่าตนยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่นั้นยอมรับว่ายิงขึ้นฟ้าไป 2 นัด เพราะตอนนั้นมีชายไม่รู้ว่าเป็นใครขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาแล้วชักปืนออกมาจ่อเพื่อนอ้างว่าเป็นตำรวจ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นตำรวจจริงหรือปลอม จึงยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่

ปิดคดีหัวร้อน

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่แจ้ง 4 ข้อหาหนัก กับนายธงชัย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, ส่วนนายภูวนัย ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ขณะที่นายประดิษฐ์ พลเมืองดีที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ โดนข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งตัวดำเนินคดีตามต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน