เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุ พบโครงกระดูกมนุษย์ ฝั่งดินอยู่ในไร้มันสำปะหลัง กลางเมืองพิษณุโลก พบกระดูกกรามหัก คาดไม่ใช่คนพื้นที่ ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาฝั่งไว้
วันที่ 15 พ.ย. 2563 ร.ต.อ.สุรพงศ์ เหมือนศรีชัย รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์กลางไร่มันสำปะหลัง พื้นที่ ม.11 บ้านร้องหวายฝาด ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สุทัศน์ มณสวัสดิ์ รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก
กำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์นิติเวชรพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ที่เกิดเหตุเป็นไร่มันสำปะหลังพื้นที่กว่า 10 ไร่ ห่างไกลบ้านเรือนประชาชน พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังจับกลุ่มยืนมุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องกั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกฝังไว้ในท้องร่องปลูกมันสำปะหลัง โดยมีชิ้นส่วนกระดูกท่อนขาโผล่ออกมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันใช้จอบและเสียมค่อย ๆ ขุด เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาทำการชันสูตรพลิกศพ
เมื่อเริ่มขุดก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สภาพผู้เสียชีวิตสวมเสื้อคลุมลายพรางทหาร คลุมทับเสื้อไหมพรมสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีกระเป๋าย่ามข้างในบรรจุยาเส้น ไฟแช็ค ยารักษาโรคจำนวนหนึ่ง และพระเครื่อง 1 องค์ ที่คอสวมสร้อยประคำ 1 เส้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์
จากการสันสูตรเบื้องต้นคาดว่าเป็นเพศชายอายุระหว่าง 40-50 ปี เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน สภาพเนื้อเยื่อเริ่มเน่า หัวกะโหลกและชิ้นส่วนร่างกายอื่น ๆ อยู่ครบ กระดูกขาขวาและกระดูกปลายแขนขวาถูกดามไว้ด้วยเหล็ก ซึ่งน่าจะเคยประสบอุบัติเหตุมาก่อน ที่สำคัญพบว่าส่วนของขากรรไกรหัก ยังไม่ทราบว่าถูกทำร้ายร่างกายมาก่อนหรือไม่
จากการสอบสวนนางลำเพย ลีปลา อายุ 49 ปี ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า วันนี้ตนพร้อมกับพรรคพวกได้เดินทางมารับจ้างตัดต้นมันสำปะหลัง ระหว่างที่ตัดต้นมันสำปะหลังอยู่นั้นสังเกตเห็นว่าในท้องร่องมีชิ้นส่วนกระดูก ทีแรกคิดว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของสุนัขจึงใช้มีดเขี่ยดู พบว่าเป็นกระดูกขนาดใหญ่และมีเศษเหล็กดามเอาไว้ด้วยความตกใจคิดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกของคน จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบเรื่อง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ขุดชิ้นส่วนหัวกะโหลกมนุษย์ขึ้นมาตรวจสอบ
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่มีใครแจ้งความคนหายแต่อย่างใด คาดว่าโครงกระดูกที่พบอาจไม่ใช่คนในพื้นที่ ส่วนหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุที่พบนั้น คือผู้ตายสวมใส่กางเกงขาสั้นที่เป็นกางเกงคล้ายกับที่นักโทษชายในเรือนจำสวมใส่ ซึ่งเรียกกันว่ากางเกงจับหมู ปักชื่อว่า “เหล็กไฟ” แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุให้แน่ชัดได้ว่าจะเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมหรือไม่
เบื้องต้นส่งศพไปผ่าชันสูตรต่อเนื่องที่นิติเวชรพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำการตรวจเก็บหาดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตเพื่อใช้ยืนยันว่า ผู้ตายเป็นใครมาจากไหน และถูกฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
