รวบผู้ต้องหาคดีฆ่าเผารถสาวคาราโอเกะ กลางไร่สับปะรดร้าง จ.เพชรบุรี เผยประวัติสุดโหดเหี้ยม เคยแทงดับชิงทรัพย์แคดดี้สาวเมื่อปี 56 เพิ่งพ้นโทษ ม.ค. 63

จากกรณีน.ส.กัญญภัค หรือผึ้ง ชาติทอง อายุ 46 ปี ทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ถูกฆ่าแล้วเผาอำพรางศพ ทิ้งไว้กลางไร่สับปะรดร้าง ม.4 บ้านโปร่งตาเพชร ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 63 ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว ฆ่าเผาสาวเสิร์ฟร้านคาราโอเกะ

ความคืบหน้าวันที่ 16 พ.ย. 2563 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วยพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.พาณุพงศ์ สอนจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจ.เพชรบุรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายอู่ทอง พรายแขวง อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าน.ส.กัญญภัค พร้อมของกลางมีดสั้นที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมได้ภายในหมู่บ้าน ม.10 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางของน.ส.กัญญภัค พบว่า มีรถจยย. ของคนร้ายได้ขี่ตามผู้เสียชีวิตตั้งแต่ออกจากร้านคาราโอเกะจนไปถึงจุดเกิดเหตุเพื่อก่อเหตุชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลจ.เพชรบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับนายอู่ทอง พรายแขวง ที่จ 313/2563 ลงวันที่ 15 พ.ย. 63 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย

พล.ต.ต.อุทัย กล่าวต่อว่า กระทั่งจับกุมตัวนายอู่ทอง ได้ที่ถนนภายในหมู่บ้าน ม.10 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลางคือ มีดสั้นที่ใช้ปาดคอและแทงผู้ตาย 1 เล่ม มีดง้าวที่ใช้ข่มขู่ 1 เล่ม รถจยย. ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน ที่ใช้เป็นพาหนะ 1 คัน และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ

จากการสอบสวนนายอู่ทอง ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุจริง โดยทำไปเพราะประสงค์ต่อทรัพย์สิน แต่กลัวผู้ตายจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงมือฆ่าปิดปาก ทั้งนี้ได้เคยก่อเหตุกระชากกระเป๋า และใช้มีดข่มขู่เพื่อชิงทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งเคยใช้อาวุธมีดฆ่าชิงทรัพย์ แคดดี้สาวในพื้นที่ ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อปี 2556 และเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2563

ด้านนายสันติ ชาติทอง สามีผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายได้ ส่วนที่ตนเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยนั้น ไม่ได้รู้สึกกดดันหรือหนักใจแต่อย่างใด เพราะทราบดีว่าตนไม่ได้ทำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ดำเนินการจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน