จับแล้วมือปืนยิง ขรก.สาว กทม. หมกศพในรถเก๋งที่สุราษฎร์ ที่แท้ฝีมือแฟนหนุ่ม หลอกฝ่ายหญิงว่ารวยจนถูกจับได้ ก่อนลงมือที่สมุทรสาคร ขับรถอยู่กับศพ 6 ชม.

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช อายุ 35 ปี ข้าราชการสาวใน กทม. ถูกยิง 4 นัด เสียชีวิตในรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว ทะเบียน 5กฉ 1397 กทม. บริเวณถนนสาย44 สะพานห้วยรัด หมู่ที่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลากว่า 2 วัน จึงมีผู้มาพบ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว 3วันพบเป็นศพ! สาวขรก. สำนักปลัดกทม. ถูกยิงหมกเก๋ง จอดทิ้งริมถนน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุราฏร์ธานี, พ.ต.ท.ธนัญชัย นวลนิรันดร์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.8 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำตัวนายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ หลังตำรวจได้รับประสานจากทางญาติของ นายโอชา ว่าจะติดต่อขอเข้ามอบตัวในพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปรับตัวมาดำเนินคดี

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโอชา ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุจริง และเพิ่งคบหากับฝ่ายหญิงมาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งตนโกหกว่าเป็นคนมีฐานะ และมีสวนอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาตนและผู้ตาย ได้ไปหาพ่อแม่ฝ่ายหญิงที่ จ.ชัยภูมิ และมีแผนที่จะแต่งงานกัน หลังจากนั้นได้พาผู้ตายไปบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อฝ่ายหญิงทราบว่าไม่ได้เป็นเหมือนที่พูดไว้ จึงรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก และได้โทร.กลับไปบอกที่บ้านว่าเหมือนโดนถูกหลอก ถ้าตนโทร.ไปก็ไม่ต้องรับสาย

ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาจากกทม.เพื่อที่จะมุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างทางในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ได้เกิดมีปากเสียงกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องที่ตนไปหลอกว่าเป็นคนรวย จึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ยิงใส่ผู้ตายหลายนัดจนเสียชีวิต แล้วนำเสื้อแจ๊คเก็ตมาคลุมร่างไว้ พร้อมกับใส่แมสก์ให้ ทำเหมือนคนนอนหลับ จากนั้นได้นำอาวุธปืนไปทิ้งในพื้นที่แยกวังมะนาว ก่อนขับรถพาศพนั่งมาในรถนานกว่า 6 ชั่วโมง

จนมาถึงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้โทร.ไปบอกกับน้องชายว่า “ทำปืนลั่นใส่แฟนจนตาย” หลังจากนั้นก็นำรถมาจอดตรงที่เกิดเหตุ ก่อนให้น้องชายขับรถมารับเพื่อหลบหนี กระทั่งทนแรงกดดันไม่ไหว จึงเข้ามอบตัวดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน