กองปราบปราม ตามรวบหนุ่มแสบ แฮกเฟซบุ๊ก ส.ต.ต. ตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เอาไปโพสต์หลอกขายสินค้า มีคนตกเป็นเหยื่ออื้อ เสียหายนับล้านบาท
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2564 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายดนุเดช จินดาสุวรรณ์ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 102 เม็ด ไอซ์ 1 ถุง อุปกรณ์การเสพ และโทรศัพท์มือถือที่ใช้แฮกข้อมูลเฟซบุ๊ก จับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.ปากพะยูน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง
- อ่าน รวบอีกคารถไฟ! หนุ่มตรัง หนีคดียาเสพติด ตั้งแต่ปี 63 ถูกจับก่อนเข้ากรุง
- อ่าน คอมมานโด กองปราบบุกรวบ “เชาว์ ท่าสูงบน” ขาใหญ่นครศรี หนีคดี
- อ่าน หนุ่มโหด เดินตามเพื่อนรัก ก่อนคว้ามีดแทงคาห้อง อ้างป้องกันตัว!
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 64 ส.ต.ต.พีระชาติ ทาราศี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร้องเรียนต่อพนักงาสอบสวนกก.6 บก.ป. หลังถูกคนร้ายแฮกเฟซบุ๊กส่วนตัว นำไปโพสต์หลอกขายสินค้าตามกลุ่มต่าง ๆ มีผู้เสียหายหลายสิบราย ความเสียหายรวมกันนับล้านบาท
ตำรวจจึงลงพื้นที่สืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายดนุเดช เคยมีประวัติหลอกลวงประชาชนในลักษณะเดียวกัน และเคยถูกจับมาแล้วหลายครั้ง แต่หลังจากที่พ้นโทษออกมาก็ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก ก่อนจะตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนนายดนุเดช ให้การรับสารภาพว่า ได้แฮกข้อมูลบัญชีเฟซบุ๊กของส.ต.ต.พีระชาติ เพื่อนำไปใช้ก่อเหตุหลอกลวงเอาเงินผู้อื่นจริง โดยทำมาแล้วประมาณ 5-6 เดือน มีผู้หลงเชื่อโอนเงินมาให้แล้วร้อยกว่าคน ได้เงินมาประมาณ 1 ล้านบาท เงินที่ได้ตนจะนำไปใช้ซื้อยาเสพติด เที่ยวเตร่ และเล่นพนันออนไลน์
จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและผู้อื่น และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” ก่อนนำตัวส่งสภ.ปากพะยูน ดำเนินคดีต่อไป
สำหรับกรณีที่เกิดเพจกองปราบปราม ยังได้โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทั่วไประมัดระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของตนเอง ลงในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เนื่องจากอาจถูกมิจฉาชีพ นำข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ไปใช้หาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงควรหมั่นเปลี่ยนรหัสผ่านอีเมลล์หรือรหัสผ่านบัญชีเฟซบุ๊กทุกๆ 3 ถึง 6 เดือน เพื่อความปลอดภัยจากมิจฉาชีพเหล่านี้ด้วย
