‘บิ๊กใหม่’บินแม่สาย แถลงจับ แก๊งค้าอาวุธสงคราม ส่งทางปณ.ไปท่าขี้เหล็ก รวบ6ผู้ต้องหา เผยที่มาระเบิดของราชการ

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 ที่ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.เดินทางไปแถลงข่าวการตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดเป็นจำนวนมากในท้องที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย

พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาประกอบด้วยนายมโนกรณ์ สั่งสอน อายุ 29 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย นายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเรือง อายุ 31 ปี ชาว ต.แม่สาย นายชิติพัทธ์ โชวมณี อายุ 36 ปี ชาว ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม นายภัคเมศร์ กีรติธัญญศิลป์ อายุ 28 ปี ชาว ต.กระตืบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

นายธีระพล อรัญพฤกษ์ อายุ 28 ปี ชาว ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราชและน.ส.พิชญาภัค กลองตัน อายุ 32 ปี ชาว ต.หนองปลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางกระสุนปืนขนาด 5.56 ม.ม.จำนวน 6,000 นัด ลูกระเบิดขว้างสังหารแบบเค 75 จำนวน 115 ลูก

โดยการจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สาย รับแจ้งมีผู้ส่งกล่องพัสดุต้องสงสัยไปส่งที่ร้านรับส่งพัสดุภัณฑ์ที่ อ.แม่สาย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจกลับพบบรรจุของกลางทั้งหมดดังกล่าว

เบื้องต้นสืบทราบว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือและเชื่อมโยงกับขบวนการค้าอาวุธสงครามในภาคใต้ จึงได้ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมตัวนายมโนกรณ์ขณะเดินทางไปติดต่อรับกล่องพัสดุและจับกุมนายทรงศักดิ์ที่กำลังรอจะขับรถตู้เพื่อจะรับจ้างขนไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนตั้งข้อหาร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตตีให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ต่อมาได้มีการประสานกับ บก.สส.ภ.8 และ บก.สส.ภ.7 ทำการขยายผลจากหลักฐานจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 4 คนดังกล่าว โดยเฉพาะนายชิติพัทธ์ที่มีชื่อเป็นผู้จัดส่งพัสดุดังกล่าวไปถึงผู้รับที่ อ.แม่สาย สามารถจับกุมได้ที่ จ.นครปฐม และทำให้ติดตามจับกุมนายภัคเมศร์ได้ที่โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้อีกคน

รวมทั้งจับกุมนายธีระพลได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วน น.ส.พืชภัค ตามไปจับได้ที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นได้นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อทำการสอบสวนขยายผลเพื่อหาตัวนายทุนและผู้สั่งการเบื้องหลังต่อไป

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ที่ตรวจสอบจากกล่องพัสดุและขยายผลจากการกล่องพัสดุใน 3 จุดคือ อ.บางละมุง อ.กำแพงแสน และ อ.สิชล ทำให้พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าผู้ใดเป็นคนกระทำความผิดเบื้องต้น 3 รายก่อน

เมื่อไปจับกุมพบว่าทุกรายให้การยอมรับว่าได้ส่งอาวุธดังกล่าวแต่เจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่าน่าจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม สำหรับต้นทางกำลังขยายผลเพื่อมีบางส่วนที่ยังได้ข้อมูลไม่ครบส่วนปลายทางอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่ทราบว่าจะส่งให้กับผู้ใดโดยอยู่ระหว่างประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป

“ตอนนี้ตัวกระสุนกับอาวุธอยู่ระหว่างตรวจสอบ เชื่อว่ากรณีลูกระเบิดน่าจะเป็นของทางราชการ แต่จากการไล่เลขล็อตนับเบอร์ก็ยังไม่พบเลขล็อตที่ตรงกันกับลูกระเบิด แต่ว่าก็ยังต้องไล่กันต่อไป เพราะของทางราชการจะเป็นอินทรีย์ 82 แต่นี้เป็นอินทรีย์ 84 จึงยังไม่พบ กำลังไล่ตามสารระบบเพราะการจัดเก็บมีมาตั้งแต่ปี 2531 ทำให้ต้องใช้เวลาแต่ยังคงมีทางไล่ตามที่มาที่ไปได้” พล.ต.อ.สุชาติ กล่าว

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน