สืบ 8 รวบสาวแสบเปิดเฟซโพสต์ขายของเด็กเล่นราคาถูกให้โอนเงินก่อนส่งของ เหยื่อกว่า 500 คนมูลค่าเสียหาย 7 ล้านบาท

วันที่ 24 เม.ย.64 พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม ผกก.กก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.วาทิตย์ โรจนไพฑูรย์ รอง ผกก.กก.สส.บก.น. 8 พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี รอง ผกก.กก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.ธวัชชัย อินทะเสย์ รอง ผกก.กก.สส.บก.น.8

สั่งการ พ.ต.ท.ชินวัฒน์ แก้วพันธุ์พงศ์ สว.กก.สส.บก.น.8 พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 1 ร่วมกันจับกุมน.ส.แสงรวีหรืออ้อม มะโนธรรม อายุ 29 ปี “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

ตามหมายจับ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 165/2563 ลงวันที่ 22 มิ.ย. 2563 สภ.สาวชะโงก จับกุมได้ที่ ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากพล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รองผบก.น.8 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนบก.น.8 เร่งรัดติดตามผู้ต้องหาตามหมายที่ก่อเหตุในพื้นที่ จนกระทั่งได้มีการประสานข้อมูลหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน

เนื่องจากมีผู้ต้องหาเปิดเฟซบุ๊กหลอกขายของเล่นสนามเด็กเล่นราคาถูกใช้ชื่อว่า “Annabee gold” ซึ่งมีสมาชิกกว่า 30,000 คน ใช้ในการฉ้อโกง โดยระบุว่าที่ตั้งร้านอยู่ในย่านบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพทหานคร อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของบก.น.8

ส่วนวิธีการจะใช้โพสต์ประกาศหลอกขายสินค้า ประเภทสนามเด็กเล่นเสริมพัฒนาการ ในราคาชุดละ 990 บาท ทำให้เกิดความสนใจเนื่องจากเป็นสินค้าที่ราคาถูก จึงทำให้ผู้เสียหายที่สนใจหลงเชื่อโอนเงินเข้าไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.แสงรวี มโนธรรม

เมื่อถึงกำหนดส่งสินค้าปรากฏว่าทางเพจไม่ได้ส่งสินค้าให้แต่อย่างใด จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวคือน.ส.แสงรวีหรืออ้อม มะโนธรรม อายุ 29 ปี

แสงรวี มะโนธรรม ผู้ก่อเหตุ

จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งทราบว่า น.ส.แสงรวี อยู่ที่ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี จึงได้ไปจับกุมตัวบริเวณดังกล่าว จากการสอบสวนน.ส.แสงรวีให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยต้องการนำเงินมาใช้จ่าย

เมื่อก่อเหตุก็หลบหนีคดีพนักงานขายของร้านทุกอย่าง 20 บาท ที่จ.สระบุรี ก่อนถูกจับกุมได้ดังกล่าว แต่ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อว่าทำเพียงคนเดียวน่าจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมโดยคาดว่าอาจจะมีแฟนน.ส.แสงรวี ร่วมก่อเหตุด้วย จะขยายผลจับกุมเพิ่มเติมอีกครั้ง

จากการตรวจสอบพบว่า มีหมายจับในการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันจำนวนหลายหมายจับ เป็นของ สภ.สาวชะโงก จำนวน 1 หมาย หน่วยอื่นอีกจำนวน 3 หมาย รวม 4 หมาย ได้แก่

1.ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามหมายจับศาลจังหวัดสวรรคโลก ที่ 56/2563 ลงวันที่ 2 ก.ย. 2563 สภ.ศรีสัชนาลัย

2.ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซื่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1612/2563 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2563 กก4.บก.ป.บช.ก.

3.ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซื่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเเท็จโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ 362/2563 ลงวันที่ 27 พ.ย. 2563 สภ.เมืองยะลา

4.ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซื่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”ตามหมายจับศาลฉะเชิงเทรา ที่ 165/2563 ลงวันที่ 22 มิ.ย. 2563 สภ.สาวชะโงก และระบุข้อมูลก่อเหตุอยู่ใน www.blacklistseller.com/report/report_preview/19069, www.blacklistseller.com/report/report_preview/19054

ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ประชาชนผู้ที่ได้รับความเสียหายกว่า 500 ราย ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับสถานีตำรวจทั่วประเทศมูลค่าความเสียหายประมาณ 7 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.สาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทราดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน