คนร้ายปลอมตัวเป็นชาวสวน หิ้วถุงมะละกอ จ่อยิง “ทนายเหว่า” แกนนำเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกิน พื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน กว่า 638 ไร่ เพื่อชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2564 ร.ต.อ.สุธรรม รุ่งส่งศรี รองสว.(สอบสวน)สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตภายในสวนยางพารา พื้นที่ ม.10 บ้านห้วยคต ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พร้อมพล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ประวิทย์ เขียวไสว ผกก.สภ.วังวิเศษ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่กองปราบปราม กำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง และหน่วยกู้ภัยพิทักษ์ชีพการกุศลสงเคราะห์

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสวนยางพารา เนื้อที่กว่า 40 ไร่ พบรถกระบะ โตโยต้า ไทเกอร์ สีทอง ทะเบียน บฉ6608 ตรัง จอดอยู่ ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร พบร่างนายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า อายุ 54 ปี ชาวจ.ตรัง สภาพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีเขียว นุ่งกางเกงวอร์มสีกรม สวมรองเท้าบูท ในมือด้านขวากำมือพร้าติดมืออยู่จำนวน 1 เล่ม นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิต

จากการตรวจสอบศพพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ไม่ทราบขนาด กระสุนเจาะเข้าหน้าท้องกระสุนฝังใน 1 แผล ต้นแขนขวาทะลุ 1 แผล หลังเท้าซ้ายทะลุส้นเท้า 1 แผล และแฉลบเข้าหลังเท้าขวาอีก 1 แผล รวม 4 แผล ห่างจากศพออกไปประมาณ 5 เมตร พบรอยเลือดหยดเป็นทาง ไปจนถึงสะพานปูนข้ามลำห้วย

พบกระสอบใส่มะละกอตกอยู่ 1 กระสอบ และลูกมะละกอเปื้อนเลือดตกอยู่นอกกระสอบอีกจำนวน 1 ลูก ใกล้กันพบหัวกระสุนทองแดง ชนิดลูกโม่ ตกอยู่จำนวน 3 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และมีกองปูนอีก 1 กอง

จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ของผู้ตายพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อาวุธปืนชนิดลูกโม่ พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีทะเบียนและใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ทราบว่า สวนยางพาราดังกล่าวเนื้อที่กว่า 40 ไร่ เป็นของผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้เดินทางออกมาจากบ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจากสวนไปประมาณ 1 กม. ตามปกติเพียงลำพัง และมีคนงาน 3 คน ตัดหญ้าอยู่ภายในสวนแต่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์

คาดว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนทำทีแต่งกายเป็นชาวสวน สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ถือกระสอบและลูกมะละกอ เดินอยู่ภายในสวนและเข้ามาหาผู้ตายซึ่งยืนอยู่บนสะพานปูนข้ามลำห้วย ก่อนใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่เท้า ซึ่งผู้ตายได้วิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด จนกระทั้งล้มลง คนร้ายจึงตามมายิงซ้ำจนเสียชีวิต

จากการสอบสวนลูกจ้างตัดหญ้าในสวน ให้การว่า ช่วงเวลา 07.40 น. ระหว่างที่ตนกำลังถางป่าของผู้ตายอยู่อีกฟากของสวน ได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันประมาณ 3 นัด แต่ไม่ได้คิดอะไร จนมาทราบว่าผู้ตายถูกยิง โดยระหว่างที่ตนเองเข้ามาตัดหญ้าผู้ตายไม่เคยเข้ามาดูในสวนเลย

ขณะที่นายชยานันท์ อ่อนชื่นจิตร อายุ 24 ปี ลูกผู้ตาย ให้การว่า พ่อมีปัญหากับที่สวนปาล์มเนื้อที่ประมาณ 638 ไร่ พ่อเคยไปช่วยชาวบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีปัญหากับคนที่เคยเป็นเจ้าของสวนปาล์มนั้น

ที่ผ่านมาพ่อมักจะคอยช่วยชาวบ้านเสมอ ซึ่งเคยบ่นกับตนว่ามีปัญหากับนายทุนด้วย พ่อบอกตลอดว่ามีคนคิดปองร้ายในช่วง 1 ปี กว่าที่ผ่านมา พ่อไม่เคยคิดร้ายกับใคร ทำไมทำกันได้ลงคอพ่อเป็นคนดีชาวบ้านในละแวกนี้รู้ดี ตนร้องจนไม่มีน้ำตาจะออกมาแล้ว ซึ่งนอกจากเรื่องที่ดิน 638 ไร่ แล้วก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ตายเป็นแกนนำคนสำคัญของชาวบ้าน ในการเคลื่อนไหวร้องเรียนสิทธิที่ดินทำกินพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานจำนวน 638 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ เพื่อจัดสรรให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ลำบากได้มีที่ดินทำกิน จนกระทั่ง มีกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง ผู้นำชุมชนบางราย และผู้มีอิทธิพล เข้ามายึดครองพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว เพื่อเข้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

ตลอดระยะเวลาปี 2563 ที่ผ่านมาผู้ตายพร้อมชาวบ้านต่อสู้เพื่อเรียกร้องมาโดยตลอด และเคยเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าและเก็บผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะมาถูกปลิดชีพครั้งนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน