คุมทำแผนฯ โจรปาหิน-ชิงทอง20บาท พบเช็กอินหลายห้าง ก่อนเลือกลงมือ ก่อเหตุเลียนแบบข่าวปล้นทอง
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุบุกใช้ก้อนหินปาเข้ากระจกร้านทองเยาวราช เอเชีย ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย ขาออก หลักกิโลเมตรที่ 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วชิงทองรูปพรรณ ขนาดต่างๆน้ำหนัก รวม 20 บาท มูลค่ากว่า500,000 บาท ใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 10 วินาที ก่อนขับรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีเงิน ทะเบียน กษ-6547 นครสวรรค์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จนล่าสุดเมื่อกลางดึก วันที่ 22 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว สามารถจับกุมตัวคนร้ายคือ นายธราเทพ จันทร์แดง อายุ 34 ปี ที่ ชาว ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ได้พร้อมรถเก๋งที่ใช้หลบหนีและทองรูปพรรณ จำนวน19 เส้น โดยได้ขายสร้อยทอง น้ำหนัก1 บาทไปแล้ว จำนวน 1 เส้น ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
อ่านข่าว จับแล้ว! โจรชิงทอง20บาท หนีข้ามจว. อ้างโควิดทำตกงาน-ไร้เงินส่งรถ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ควบคุมตัวนายธราเทพ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทอง เยาวราช เอเชีย ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
นาทีปาหิน
เริ่มตั้งแต่ขับรถยนต์เข้ามาจอดภายในลานจอดรถ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านทอง สวมหมวกไหมพรหม จากนั้นนำก้อนหินที่เตรียมออกมาจากเป้ ปาก้อนหินเข้าไปที่ ตู้โชว์ทอง แล้วปีนขึ้นไปยืนบนเคาน์เตอร์ ยกเอาถาดที่แขวนโชว์ทอง วิ่งหลบหนีไป ขับรถยนต์เก๋งที่จอดเอาไว้ที่ลานจอด
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า จากการที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์ชิงทรัพย์ปล้นทรัพย์อยู่เป็นประจำทุกเดือน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าใจแนวทางการปฎิบัติทันที่เมื่อเกิดเหตุ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาพียงไม่กี่นาทีถึงที่เกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายปราบปราม ทำงานอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ข้อมูลตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและยานพาหนะที่มีพลเมืองดีถ่ายภาพเอาไว้ จึงเร่งรัดติดตามประสานกับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามพื้นที่ต่าง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนสามารถประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ต่างๆโยเฉพาะ ในพื้นที่ ตำรวจภูธร ภาค 2 จนสามารถจับกุมคนร้ายได้
จนมุมพร้อมทองของกลาง
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยทำงาน เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแต่ตกงาน ไม่มีเงินส่งค่างวดรถ จึงตัดสินใจก่อเหตุ เพื่อหาเงินส่งค่างวดรถ มีการพูดคุยกับญาติว่ามีทางออกแล้วที่หาเงินมาส่งค่างวดรถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหามีการเช็กอินที่ ห้างสรรพสินค้า หลายแห่งในพื้นที่ ปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะมาก่อเหตุ มีการแชร์โพสต์ข่าว คนร้ายก่อเหตุชิงทองผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ก่อนที่จะมาก่อเหตุ
โดยปกติเจ้าตัวพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่ตัดสินใจมาก่อเหตุที่พระนครศรีอยุธยา เพราะเคยมาแล้วและเห็นว่า ร้านทองอยู่ใกล้กับทางเข้าออกห้าง จึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดมือตำรวจ
