ตำรวจ 191 ตามสกัดรถ เอเย่นต์ยาเสพติด ขณะขับไปส่งของ ตรวจยึดเคตามีน 3.8 กก. ยาบ้าอีก 50,800 เม็ด สารภาพ รับส่งยาแลกค่าจ้าง
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2564 ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. สั่งการให้ ร.ต.อ.ณกฤตชัย สุขนิล ร.ต.อ.ณรงค์เดช พิทักษ์ประชาชน รองสว.งานสายตรวจ 2 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายปรวีร์ หรือขวัญ อายุ 36 ปี
พร้อมของกลางเคตามีน หรือคีตามีน น้ำหนักประมาณ 3.8 กิโลกรัม ยาบ้า 50,800 เม็ด จับกุมได้ที่ริมถนนกัลปพฤกษ์ ซ.4 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ และที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ภายในสนามฟุตบอลไพรจิตร ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากตำรวจได้จับกุมนายสุทธินันท์ หรือเบ๊นซ์ และนายธีรภัทร หรือเหน่ง ได้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 64 จากการสืบสวนขยายผลทราบว่านายปรวีร์ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ในเขตภาษีเจริญ โดยพักอาศัยอยู่บริเวณสนามฟุตบอลไพรจิตร ถนนกัลปพฤกษ์ โดยใช้รถยนต์ มาสด้า 2 ทะเบียน 2ขฆ4196 กรุงเทพมหานคร ขับไปรับยาเสพติดมาขาย
จึงได้ติดตามสะกดรอยเฝ้าดูพฤติกรรมการซื้อขายยาเสพติดของผู้ต้องหารายนี้จนทราบที่ซุกซ่อนยาเสพติด ต่อมาวันที่ 5 ก.ค. 64 เวลาประมาณ 03.00 น. ตำรวจรับแจ้งจากสายลับว่านายปรวีร์ ได้เดินทางไปรับยาเสพติดที่จ.สุพรรณบุรี ตำรวจจึงได้ติดตามสะกดรอยตายไปจับกุมนายปรวีร์ ไว้ได้และทำการตรวจค้นรถยนต์พบเคตามีนน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
จากการสอบสวนรับว่าเคตามีนเป็นของตนจริงโดยตนมีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า และรับอีกว่ายังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ภายในสนามฟุตบอลไพรจิตร ตำรวจจึงได้ไปทำการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 50,800 เม็ด และเคตามีนหรือคีตามีนน้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม
ผู้ต้องหายังรับอีกว่าของกลางดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้เดินทางไปรับยาเสพติดไม่ทราบจำนวนจากชายไม่ทราบชื่อ โดยชายดังกล่าวได้นำยาเสพติดใส่กระสอบและส่งมอบให้กับตน จากนั้นตนได้นำยาเสพติดที่ได้นั้น นำมาส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนายทุน ที่บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2(ยาเคตามีน หรือยาคีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
