สลดอีก ลูกชายขอเงินพ่อ ไปซื้อยาบ้า พอไม่ได้กลับใช้ขวาน สังหารดับ

ลูกทรพี ทาสยานรก คุมสติไม่อยู่ หลังขอเงิน พ่อบังเกิดเกล้า ซื้อยาบ้าไม่ได้ เดินลากขวาน สังหารโหดคาห้องนอน ก่อนลากไปทิ้งในป่า

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2564 พ.ต.ท.สาโรจน์ ช่องรักษ์ สว.(สอบสวน)สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต หลังบ้านหลังหนึ่งใน ม.4 บ้านท่าบันได ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พ.ต.ท.สมพงษ์ ปานเหลือง รองผกก.(สอบสวน) ชุดสืบสวนสภ.ย่านตาขาว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง

ที่เกิดเหตุเป็นซอยถนนดินแดง สุดซอยเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณพื้นดินขอบบ่อน้ำทิ้งด้านหลังบ้าน ห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร มีหญ้าสูงประมาณ 60 ชม. ปกคลุม ที่ขอบบ่อพบร่างนายชาติ สองเมือง หรือหมิน อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพกรีดยางพารา

มีเสื้อยืดสีครีมคลุมปิดทับศีรษะ สวมกางเกงยีนขาสั้น นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มือซ้ายห้อยลงไปในบ่อ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 18 ชม. พบบาดแผลถูกจามด้วยขวานเข้าที่กลางศีรษะ 1 แผล และที่หูขวา 1 แผล หัวไหล่ด้านซ้ายและแขนซ้ายเป็นแผลถลอก ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดต่อ ที่ รพ.ย่านตาขาว

ต่อมานายสมพงศ์ ไพบูลย์ กำนัน ต.ทุ่งกระบือ และบรรดาญาติได้เกลี่ยกล่อมนายกิตติศักดิ์ สองเมือง หรือหลิม อายุ 31 ปี ลูกชายผู้ตายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ หลบซ่อนอยู่ภายในบ้าน นานกว่า 1 ชม. จึงสำเร็จ พบของกลางเป็นขวาน หน้ากว้าง 3.5 นิ้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน

จากการสอบสวนนายกิติศักดิ์ ยังคงให้การวกวน โดยรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพ่อตัวเองจริง โดยลงมือก่อเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณระหว่าง 01.00 น. -03.00 น. ของคืนวันที่ 14 ก.ค. 64 โดยก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะและมีปากเสียงกับพ่ออย่างรุนแรง เพราะขอเงินไปซื้อยาบ้าแต่พ่อไม่ให้ และในระหว่างที่พ่อนอนหลับอยู่ในห้อง ตนจึงถือขวนเข้าไปจามเข้าศีรษะและเสียชีวิตทันที

ก่อนจะลากศพออกไปทิ้งยังขอบบ่อหลังบ้าน และได้กลับมาทำความสะอาดบ้านเพื่อไม่ให้มีร่องรอยคราบเลือด จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันนี้ตนจึงได้โทรไปหาพี่ชายที่อยู่ต่างจังหวัดว่าตนได้ลงมือฆ่าพ่อและนำศพไปทิ้งไว้หลังบ้าน จึงทำให้พี่ชายติดต่อมาที่ญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้กันให้ทราบเรื่อง และพบศพดังกล่าว

ด้านนายศรชัย สองเมือง อายุ 37 ปี หลานผู้ตาย ให้การว่า คืนที่เกิดเหตุได้ยินเสียงพ่อกับลูกทะเลาะดังออกมาจากบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในทุกวัน ปกติทุกเช้าผู้ตายจะมานั่งดื่มกาแฟที่บ้านตนเป็นประจำ แต่ปรากฏว่าเช้าไม่เห็นจึงเลยสงสัยเดินไปที่บ้าน พบเพียงลูกชายนั่งอยู่หน้าบ้าน จึงได้สอบถามว่าผู้ตายไปไหน ลูกชายตอบว่าไม่รู้แต่ท่าทีมีพิรุธ

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยต้องคดีลักปาล์มน้ำมันเมื่อต้นปี จนถูกคุมขังและได้รับการปล่อยตัวออกมา มีประวัติเสพยาบ้า เสพน้ำต้มพืชกระท่อม และสารเสพติดชนิดอื่น ๆ มาเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งมีอาการทางประสาทร่วมด้วยเพราะสารเสพติด และทำการรักษาจากรพ.ย่านตาขาว อยู่ 5 ปี จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันผลการใช้สารเสพติด ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น จำนวน 2 ข้อหา คือ ฆ่าบุพการีโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ก่อนนำตัวไปคุมขังและเตรียมนำส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ต่อไป