ป้า51น้ำตานอง โดนข้อหาหนัก กักขังหน่วงเหนี่ยว อุ้ม7ขวบ เป็นตัวประกัน บีบให้ยายเด็กคืนเงินแก๊งเงินกู้ ครวญไม่ตั้งใจแต่ไม่มีทางออก แฉยายเด็กยอมรับไม่มีเงินจ่าย เอาไปเล่นพนันหมด ผกก.เร่งหาแก๊งปล่อยเงินกู้
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2564 กรณีนางสุทัศน์ อายุ 51 ปี ชาวบ้านหินลาด ต.หินลาด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จับ ด.ช.วัย 7 ปี หลานชายเพื่อนบ้าน โดยมีอาวุธมีดขู่บังคับให้ไปด้วย แล้วเอาไปกักขังไว้ที่บ้านญาตินานกว่า 2 ช.ม.
เพื่อต้องการให้นางจันทร์เพ็ญ ซึ่งเป็นยายเด็กเอาเงินกู้รายวันมาคืนให้ เนื่องจากเป็นคนค้ำประกันให้และจ่ายไปให้หลายวันแล้ว แต่หนีหน้าทำให้นางสุทัศน์ ต้องเผชิญกับแก๊งเงินกู้รายวันเพียงคนเดียว จนเกิดความเครียด เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. 15 ส.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดตำรวจได้เรียกนางสุทัศน์ พร้อมให้นำมีดที่ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกรวด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “กักขังหน่วงเหนี่ยว” โดยเมื่อเจ้าตัวทราบข้อหาถึงกับนั่งร้องไห้ เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้
นางสุทัศน์เผยทั้งน้ำตาว่า ไม่เคยคิดจะทำร้ายเด็ก แต่ไม่มีทางออกที่จะเรียกร้องให้นางจันทร์เพ็ญ มาสนใจ เนื่องจากติดต่อไม่ได้ ประกอบกับนางจันทร์เพ็ญ ประกาศว่าจะหนีหนี้ ซึ่งจะทำให้ภาระทั้งหมดตกที่ตนเพียงคนเดียว
ขณะเดียวกันนางจันทร์เพ็ญ ยายเด็ก ที่มารอให้ปากคำกับตำรวจ ระหว่างนั้นได้มีโทรศัพท์ของเจ้าหนี้ โทรมาทวงเงินที่กู้ไป โดยนางจันทร์เพ็ญยอมรับว่า ยังไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหนไปใช้แทนเพราะเสียพนันไปหมดแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.บ้านกรวด กล่าวว่า เท่าที่ทราบชาวบ้านมักจะกู้เงินรายวันมาเพื่อเอามาใช้จ่าย แต่ไม่มีเงินคืนให้ จำเป็นจะต้องไปกู้รายอื่นเพื่อเอามาจ่าย กลายเป็นดินพอกหางหมู
ส่วนการเล่นการพนันนั้น พื้นที่ อ.บ้านกรวด ติดกับชายแดนไทย ซึ่งฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจะมีบ่อนเสรี ทำให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งเข้าไปเล่นการพนัน สำหรับในพื้นที่ยังไม่พบมีการเปิดการเล่นแต่อย่างใด
ขณะที่แก๊งปล่อยเงินกู้ ตอนนี้ชุดสืบสวนกำลังติดตามหาตัว หากพบว่ามีการปล่อยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป
