โจรแสบ ควบมอเตอร์ไซค์บินเดี่ยว ถือที่กล่องพัสดุ หลอกแม่ค้าสาว นั่งขายผลไม้ข้างทาง อ้างแม่สั่งของเป็นเงิน 450 บาท ลูกสาวควักให้เห็นเงินเยอะเปลี่ยนใจขู่ เอามา 1,450 ก่อนขับรถหนีไป เปิดดูกล่องพบเป็นที่ชาร์จโทรศัพท์เก่า โร่แจ้งตำรวจติดตาม น้อยใจขายของยากยุคโควิด ยังมาโดนปล้นเอาเงินอีก
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีคนร้ายหลอกเอาเงินคนขายผลไม้ริมทาง ใกล้กับปั๊มน้ำมันปตท. ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย จึงเข้าตรวจสอบ พบเป็นแผงผลไม้ขายผลไม้ 3-4 ชนิด
สอบถาม นางศรีเนตร กุญชัย อายุ 51 ปี ชาว ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าของแผงผลไม้ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนไปทำธุระจึงให้ลูกสาววัย 16 ปีมาเฝ้าแผงผลไม้แทน
พอกลับมาถึง ลูกสาวแจ้งว่า “จ่ายแล้วนะค่าพัสดุ1,450 บาท” ตนแปลกใจเพราะไม่เคยสั่งของทางอินเตอร์เน็ต เมื่อตรวจสอบดูพบเป็นที่ชาร์จโทรศัพท์ 1 อัน แต่ไม่ใช่ของใหม่ อยู่ในกล่องกระดาษธรรมดา
ลูกสาวบอกว่า มีชายอายุประมาณ 40-50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำ รุ่นเก่า ขับมาจอดหน้าร้าน แล้วถือกล่องกระดาษมาให้บอกว่า “แม่สั่งของเป็นเงิน 450 บาท”
จึงไปหยิบเงินให้ จากนั้นชายคนดังกล่าว ได้เปลี่ยนคำพูดเสียงดังขึ้นเหมือนบังคับ ใหม่ว่า 1,450 บาท ก่อนลูกสาวจะหยิบเงินให้ และคาดว่าตอนแรกคนร้ายต้องการแค่ 450 บาท แต่เมื่อเห็นเงินในกระป๋องมีมากกว่าจึงเรียกเพิ่มเป็น 1,450 บาท
นางศรีเนตร บอกด้วยว่า การกระทำดังกล่าวของคนร้ายถือว่าเป็นการซ้ำเติมในช่วงที่การหากินลำบาก เงินจำนวน 1,450 บาท ไม่ใช่เป็นเงินน้อยสำหรับในช่วงนี้ แต่กลับมีคนมาฉวยโอกาสมาปล้นเอาไปดื้อๆ รู้สึกเสียดายและเสียใจ โดยหลังเกิดเหตุได้แจ้งตำรวจเอาไว้แล้ว
น.ส.สรวรรณ พะลุรัมย์ อายุ 16 ปี ลูกสาวแม่ค้าผลไม้ บอกว่าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี เข้ามาหาแบบจู่โจม ส่วนหนึ่งเอะใจ แต่ไม่กล้าเถียง เพราะคนร้ายมาแบบลักษณะข่มขู่ ประกอบกับนั่งขายอยู่คนเดียว เกรงจะได้รับอันตราย จึงจ่ายเงินค่าของไปทั้งที่ไม่เต็มใจจ่ายให้
