ตำรวจตามสกัดจับ คาด่านตรวจ โควิด-19 อ.บางบัวทอง โซเฟอร์ซุกยาบ้า 2 ล้านเม็ด ปะปนมากับผัก รับทำมาหลายครั้ง ส่วนคนขับรถนำทาง หนีไปได้
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ที่บช.น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และพ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รองผกก.สายตรวจ บก.สปพ.
ร่วมกันแถลงการจับกุมนายบุญมี ผิวอ่อนดี หรือเอก อายุ 59 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 2,000,000 เม็ด รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บห 4238 พิษณุโลก รถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียน 3ฒข 773 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์ 2 เครื่อง
ยึดตามพ.ร.บ.มาตราการ รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค สีแดง ทะเบียน 7กฆ5747 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน 7กข4259 กรุงเทพมหานคร เงินสด 11,000 บาท พระเครื่อง 11 องค์ บัตรเอทีเอ็ม 4 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1,500,000 บาท จับกุมได้ที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส. บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง จนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี จะทำการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ผ่านทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ต่อมาวันที่ 1 ก.ย. 64 ตำรวจทราบว่าเครือข่ายกลุ่มนี้จะลักลอบลำเลียงยาบ้าลงสู่ภาคใต้ จึงได้วางกำลังตามเส้นทางกระทั่งพบรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บห4238 พิษณุโลก บรรทุกผักเต็มท้ายรถ และมีรถกระบะ โตโยต้า รีโว สีเทา ทะเบียน 3ฒข773 กรุงเทพมหานคร ขับนำหน้าโดยใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี และเข้าเส้นทางถนนกาญจนาภิเษก(ตะวันตก)
ตำรวจจึงติดตามรถทั้งสองไปจนกระทั้งรถกระบะชะลอความเร็วก่อนเข้าด่านตรวจสกัด โควิด-19 อ.บางบัวทอง จึงเข้าแสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนปะปนไว้กับผักกะหล่ำปลีที่บริเวณท้ายรถกระบะ ส่วนรถกระบะที่นำทางนั้น ได้ขับหลบหนีการจับกุมไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณซ.เปี่ยมสุข ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ส่วนคนขับหลบหนีไป
จากการสอบสวนนายบุญมี ให้การรับว่า ได้รับจ้างขนยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 64 โดยมีนายโอม เป็นผู้ว่าจ้างให้ขนยาเสพติดครั้งละประมาณ 1,800,000 – 2,000,000 เม็ด โดยตนเป็นคนขับรถขนยาเสพติด และมีผู้ร่วมขบวนการทำหน้าที่ขับรถนำ ซึ่งจะนำยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง ลำเลียงสู่ชายแดนพื้นที่ภาคใต้ อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ขับรถกระบะ โตโยต้า ที่ทำหน้าที่นำทาง ซึ่งได้หลบหนีไป รวมถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีกต่อไป
