ล็อกสาวเจ้าของคาร์แคร์ ร่วมทีมขนยาบ้า-ไอซ์ 150 ล้าน ตร.เร่งล่าผัว แกะรอยเส้นทางเงิน พบทำเป็นขบวนการใหญ่ สงสัยได้เงินค้ายามาเปิดร้าน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค.64 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. แถลงจับกุมน.ส.อังควิภา อายุ 20 ปี
พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 962,000 เม็ดยาอี 195,950 เม็ด เฮโรอีน 104 แท่ง น้ำหนักประมาณ 38 กก. ยาไอซ์ หนักประมาณ 3 กก. รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา จับกุมบริเวณถนนภายในหมู่บ้านหน้าวัดซับตะกั่ว ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี บริเวณถนนภายในไร่อ้อย ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และบริเวณหน้าบ้าน ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ต่อเนื่องกันขยายผลยึดของกลาง รวมมูลค่าประมาณ 157,900,000 บาท
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. และตำรวจ กก.สส.2 บก.สส. บช.น. ชุดจับกุมร่วมกันบูรณาการสืบสวนหาข่าวผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางซึ่งได้จับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วประกอบกับได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ากลุ่มเครือข่ายขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดนั้นพักอาศัยอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ และจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะไปรับยาเสพติดตามแนวตะเข็บชายแดน จ.มุกดาหาร เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าที่อยู่ภาคกลาง ซึ่งกลุ่มเครือข่ายนี้จะใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบบรรทุกยาเสพติดในการบรรทุกยาเสพติด และมีรถยนต์กระบะเป็นรถนำทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางในการเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ หากพลกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้จากเสพติด
ด้านพล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนี้จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยออกจาก จ.เพชรบูรณ์ ไปรับยาเสพติดตามแนวตะเข็บชายแดน จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันติดตามสังเกตการณ์รถยนต์เป้าหมาย จนกระทั้งทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนี้ได้ไปรับรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ซึ่งภายในได้บรรทุกยาเสพติดไว้แล้ว และจอดอยู่บริเวณหน้าวัดสองคอน อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ขับนำทางเพื่อตรวจสอบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อรับยาเสพติดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ลำเลียงยาเสพติดมาจนถึงบริเวณเลย อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รถเป้าหมายทั้ง 2 คันได้ไหวตัวทัน พยายามขับหลบหนี
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามรถทั้ง 2 คัน และพบรถยนต์กระบะตู้ทึบจอดทิ้งไว้บริเวณถนนภายในหมู่บ้านหน้าวัดซับตะกั่ว หมู่ที่ 1 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ส่วนผู้ต้องหานั้นได้อาศัยความมืดหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ เมื่อตรวจสอบภายในรถพบยาเสพติดของกลางทั้งหมดอยู่ในตู้ทึบหลังรถ และได้ติดตามรถกระบะที่ทำหน้าที่นำทางไปจนถึงบริเวณถนนภายในไร่อ้อย หมู่ที่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พบผู้ต้องหาเดินออกมาจากไร้อ้อยบริเวณบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และจึงทำการปิดล้อมตรวจตรวจสอบรถยนต์กระบะจอดอยู่ในไร่อ้อยจนสามารถจับกุม น.ส.อังควิภา ส่วนลักษณะยาอีดังกล่าวเป็นยาอีรูปแบบใหม่ที่มีลักษณะเม็ดค่อนข้างสมบูรณ์ ใช้ประเทศเพื่อนบ้านเป็นทางผ่านมาถึงประเทศไทยแน่นอน
Advertisement
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับว่า ปกติตนทำงานเป็นเจ้าของร้านคาร์แคร์ ได้นั่งรถนำ คอยระวังเจ้าหน้าที่ ทำมา 2 ครั้ง ได้เงินครั้งละ 20,000 บาท และให้คนขับส่งตนเพื่อหลบหนี คาดว่าผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยมีสามีของน.ส.อังควิภา อยู่ด้วยคาดว่าน่าจะได้เงินจากการค้ายาเสพติดมาเปิดร้านคาร์แคร์ดังกล่าว แต่น.ส.อังควิภา ถูกจับกุมเสียก่อน โดยจะนำยาเสพติดไปที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ส่วนคนขับหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาที่ กก.สายตรวจ บก.สปพ. เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุม แจ้งข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, เฮโรอีน, ยาอี,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่ง พงส.บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
