กองปราบ นำกำลังบุกรวบคาผ้าเหลือง อดีตไต๋จอมโหด ยิงลูกน้องเสียชีวิต 2 ศพ โยนทิ้งกลางอ่าวไทย ขนเงินค่าขนน้ำมัน 6 ล้าน หนีคดีมาบวชพระนาน 7 ปี
วันที่ 28 ต.ค.2564 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังร่วมกันจับกุม นายเฉลียง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานีที่ จ.221/2559 ลงวันที่ 13 ก.ค.2559 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยักยอกทรัพย์ และรับคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2557 ขณะนั้นนายเฉลียงยังเป็นไต๋เรือรับจ้างขนส่งน้ำมันดีเซลจากเขตน่านน้ำประเทศมาเลเซียไปยังน่านน้ำประเทศกัมพูชา ระหว่างนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกเรือที่มีอยู่แค่ 2 คนจนเสียชีวิตไปทั้งคู่ ก่อนนำศพโยนทิ้งทะเลขณะอยู่นอกเขตน่านน้ำไทย (เขตเศรษฐกิจจำเพาะ) แล้วนำเรือเข้าฝั่งมาขึ้นที่ อ.เกาะกูด จ.ตราด ก่อนจะนำเงินสดที่ได้จากการรับจ้างขนน้ำมัน 15 เที่ยว เป็นเงินประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของ นายอังคาร (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ว่าจ้างและผู้เช่าเรือหลบหนีไป
กองปราบ นำกำลังบุกรวบคาผ้าเหลือง อดีตไต๋จอมโหด ยิงลูกน้องเสียชีวิต 2 ศพ โยนทิ้งกลางอ่าวไทย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า หลังก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาหลบหนีคดีมาบวชเป็นพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย จึงลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตม.เลย และตำรวจ สภ.เชียงคาน ทำการตรวจสอบก่อนพบตัวและเข้าจับกุมดังกล่าว
จากนั้นก็พาไปลาสิกขา เพื่อนำตัวมาสอบสวน นายเฉลียง ให้การยอมรับสารภาพในคดีฆ่า ที่ตนทำไปก็เพราะวันเกิดเหตุลูกเรือทั้งสองเมาเหล้า และไม่ยอมทำงานตามคำสั่ง ขณะนั้นตนก็มึนเมาอยู่นิด ๆ ก็เลยบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ส่วนข้อกล่าวหาคดีอื่น ๆ นั้นตนขอให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่งสภ.เมืองปัตตานี ดำเนินคดี
