รองโฆษกอสส.แจง อัยการสงขลาสั่งไม่ฟ้องเสี่ยโจ้ ค้าน้ำมันเถื่อน เลยต้องปล่อยตัว ตร.ไม่อายัดตัวเพิ่ม เผยเคยให้ตร.สอบเพิ่ม 2 ปีแล้ว สำนวนยังไม่เสร็จ
วันที่ 10 พ.ย.2564 นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนายสหชัย (สงวนนามสกุล) หรือเสี่ยโจ้ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดีค้าน้ำมันเถื่อนว่าอัยการได้สั่งไม่ฟ้อง จึงต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไป
ทั้งนี้ตำรวจได้คุมตัวเสี่ยโจ้ส่งอัยการสงขลาตามหมายจับในคดีฟอกเงินและค้าน้ำมันเถื่อน ทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี และได้เสนอไปยังอธิบดีอัยการภาค9 พิจารณาแล้วเห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องคดีจึงไม่มีอำนาจควบคุมตัว ดังนั้นจึงต้องปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไป
นายประยุทธกล่าวว่า ก่อนปล่อยตัวเสี่ยโจ้ ทางอัยการจังหวัดสงขลาได้สอบถามตำรวจที่คุมตัวเสี่ยโจ้มาส่งหลายครั้งแล้วว่าผู้ต้องหามีคดีอื่นๆ อีกหรือไม่เพื่อจะได้ให้ส่งตัวไปดำเนินการ โดยได้ถามย้ำ4-5 ครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันกับอัยการจังหวัดสงขลาว่า ผู้ต้องหาไม่มีคดีอื่นๆ อีก เมื่อไม่มีการแจ้งอายัดตัว จึงต้องปล่อยตัวเสี่ยโจ้ไป
อย่างไรก็ดีคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด อัยการจะส่งความเห็นไปยังกองบัญชาการสอบสวนกลางเพื่อเสนอให้ผบ.ตร.พิจารณาต่อไป ถ้าเห็นด้วย คดีนี้ก็เป็นอันยุติ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ต้องส่งอัยการสูงสุดชี้ขาดต่อไป
นายประยุทธ กล่าวว่า ส่วนสำนวนคดีค้าน้ำมันเถื่อนที่อยู่ในอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เป็นอำนาจการสั่งคดีของอัยการสูงสุดสมัยนั้น คือ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ ซึ่งได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนปอศ. สอบสวนเพิ่มเติมตั้งแต่ปี 2560- 2561 ใน 2 ประเด็น คือให้คำนวนภาษีน้ำมันที่จับกุมได้ ว่าเป็นเงินเท่าไร และเงินริงกิตมาเลเซียที่ยึดได้คิดเป็นเงินไทยเท่าไร
โดยเมื่อเดือน ต.ค.2563 อัยการได้ทำหนังสือเตือนแจ้งให้พนักงานสอบสวนเร่งส่งผลสอบเพิ่มมา แต่จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ส่งผลการสอบเพิ่มมาให้อัยการแต่อย่างใด อัยการจึงยังสั่งคดีนี้ไม่ได้ ส่วนคดีที่อัยการจังหวัดปัตตานีพิจารณานั้นมีทั้งหมด 5 สำนวน ทุกคดีเป็นอันยุติหมดแล้ว โดยมีทั้งสั่งไม่ฟ้องเเละขาดอายุความ
