เผยนาทีลงมือโหด สังหารสาวใหญ่ หนุ่มรอดตายเล่าช็อก โดนอีโต้ทุบสลบ บังคับโอนเงิน 1 ล้าน ได้ทองไป 12 บาท พระเลี่ยมทอง 8 องค์ ยันไม่อโหสิ พ่อ-แม่คนร้ายขอขมาศพ

จากกรณี น.ส.รัฐคณิศร จารุภัทรกิตติโชติ อายุ 56 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด เรติ กรุ๊ฟ ที่รับทำเกี่ยวกับโครงข่ายอินเตอร์เน็ต ถูกคนร้ายฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ภายในบ้านพัก พื้นที่หมู่ 6 ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และคนร้ายยังได้ก่อเหตุทำร้าย นายรุจิภาส โชติธรรม อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้ต้องสงสัยคาดว่าคือ นายชโนชัย (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของธุรกิจน้ำดื่ม ที่ผู้ตายเคยให้ความช่วยเหลือให้กู้เงินกว่า 9 แสนบาทไปลงทุน ก่อนจะมีหนี้สินท่วมตัว เคยเสนอขายบ้านให้ผู้ตาย เพื่อล้างหนี้ แต่ถูกปฏิเสธ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 พ.ย.64 นางขนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) เพื่อนสาวคนสนิทของ น.ส.รัฐคณิศร ได้พาตัว นายรุจิภาส ลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บออกจากโรงพยาบาล ก่อนไปที่วัดดอนใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.รัฐคณิศร โดยมี พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เดินทางมาร่วมงานศพ และเข้าสอบถามอาการ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นายรุจิภาส กล่าวว่า น.ส.รัฐคณิศร แม้จะเป็นผู้หญิงทอม แต่เค้าเปรียบเสมือนพ่อแท้ๆ ที่ตนสามารถเรียกได้ว่าพ่อ ส่วนในวันเกิดเหตุ ตนได้เดินเท้าออกจากออฟฟิตที่อยู่ข้างบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อกลับไปกินข้าวกลับผู้ตาย แต่เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน และตรงไปยังโซนห้องครัว ก็พบ นายชโนชัย เดินถือมีดอีโต้ตรงปรี่เข้ามาฟันที่หัวของตนทันที ซึ่งตนก็ได้พยายามต่อสู้แล้ว แต่ก็สู้แรง นายชโนชัย ไม่ไหว

จนกระทั่งถูกทำร้ายจนสลบเหมือด เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ต้องตกอยู่ในสภาพที่ นายชโนชัย เอาผ้าม่านหน้าต่างและเข็มขัดมามัดมือมัดเท้า จากนั้นก็ถูกบังคับให้บอกถึงที่ซ่อนทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้าน และก็ได้ไปทั้งสร้อยคอทองคำ 12 บาท พระเลี่ยมทองอีก 8 องค์ รวมถึงเหรียญที่อยู่ในกระปุกออมสินนับพัน และบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย

“เท่านั้นยังไม่พอ นายชโนชัย ยังได้ไปแกะเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดที่อยู่ภายในบ้าน พร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือของผมและผู้ตายเอาไว้ด้วย เนื่องจากภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในบ้าน สามารถเปิดดูผ่านทางมือถือของผมและผู้ตายได้ จากนั้น นายชโนชัย ยังบังคับให้ผมใช้โทรศัพของผู้ตาย ที่ผมรู้รหัสเข้าแอพฯ ธนาคาร ให้โอนเงิน 1 ล้านบาท เข้าอีกบัญชีธนาคารของผู้ตาย ที่ นายชโนชัย ได้ยึดบัตรเอทีเอ็มไป และรู้รหัสบัตรอีกด้วย ซึ่งผมก็กลัวจึงยอมโอนให้ไปในรอบแรก 5 แสนบาท แต่เนื่องจากวงเงินการโอนเต็มวงเงิน จึงทำให้ไม่สามารถโอนเพิ่มไปได้อีก ผมก็อาศัยไหวพริบหลอก นายชโนชัย ว่าผมโอนอีกรอบครบไป 1 ล้านแล้ว จึงทำให้ นายชโนชัย ยอมปล่อยผม โดยบอกผมว่า ให้รออีก 2 ชั่วโมงหลัง นายชโนชัย หลบหนีไปแล้ว ค่อยหาทางออกไปขอความช่วยเหลือจากคนในละแวกบ้าน” นายรุจิภาส กล่าว

นายรุจิภาส กล่าวต่อว่า การที่ นายชโนชัย ทำแบบนี้ รู้ว่าเขามีปัญหาทางหนี้สิน และเขาก็ยังเป็นหนี้ผู้ตายอยู่หลายแสน ซึ่งก็ถูกทวงถามอยู่บ่อยๆ มันก็ไม่ผิดที่เจ้าหนี้จะทวงถามเรื่องเงินที่ถูกยืมไป ตนมองว่า เรื่องแบบนี้ คนเป็นหนี้ควรต้องใช้ แต่สุดท้ายมันก็ยังสามารถประนีประนอมกันได้ เพราะผู้ตายไม่มีนิสัยโหดร้ายอะไร แถมยังเคยช่วยเหลือ นายชโนชัย อยู่บ่อยๆ ด้วยซ้ำ และเรื่องนี้ ตนจะไม่อโหสิ และให้อภัย นายชโนชัย อย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ หลังจากการให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่า พ่อและแม่ของ นายชโนชัย ได้เดินทางมาที่วัด เพื่อมาไหว้เคารพศพ และขอขมาผู้ตาย ด้วยความเสียใจก่อนจะเดินไปพูดคุยกับ นายรุจิภาส เพื่อขมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับรับปากว่า จะใช้หนี้แทน นายชโนชัย ที่ยืมไปแทนทั้งหมด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน