เจ้าหน้าที่ ดส. ตามรวบ 1 ในขบวนการ โรแมนซ์สแกม หลอกดูดเงินผู้เสียหาย 3 หมื่นบาท อ้างแค่เปิดบัญชี โดนหมายจับเลยหนีมาเป็นยาม ย่านร่มเกล้า
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รองผกก.กก.ดส. ว่าที่พ.ต.ต.หญิงชาดา เสสะเวช สว.กก.ดส.บช.น. ร.ต.อ.อรัญ เชียงกุล ร.ต.อ.เชิดชัย ขวัญกิจรัชยา และร.ต.ต.พรหมฤทธิ์ เมืองแป้น รองสว.กก.ดส.บช.น.
ร่วมกันจับกุมนายอานนท์ วิริยะพงษ์ อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาแก๊งแสร้งรักออนไลน์ หรือขบวนการโรแมนซ์สแกม (Romance Scam) จับกุมได้บริเวณหน้าศูนย์บริการสาธารณสุข 45 เคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 64 ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองสกลนคร ว่าได้สนทนากับคนร้ายผ่านโปรแกรมแมสเซนเจอร์ บัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ GARDEN NANCY โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคนเชื้อชาติเกาหลี แต่มาเติบโตและได้รับสัญชาติสหรัฐอเมริกา อายุ 25 ปี สถานภาพโสด และปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ของกองทัพสหรัฐอเมริกาชั้นยศร้อยตรี ถูกส่งมาทำงานที่ประเทศเยเมน
จากการพูดคุยนั้นทำให้รู้สึกเกิดความผูกพัน และพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาวรักและชื่นชมผู้เสียหาย อยากจะแต่งงานกับผู้กล่าวหาและมาใช้ชีวิตร่วมกันที่ประเทศไทย ต่อมาคนร้ายแจ้งว่ามีเงินอยู่ 1,200,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากการทำธุรกิจน้ำมันที่ประเทศเยเมน แต่เงินยอดนี้กำลังมีปัญหากับคณะกรรมการการเงินการทูตของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นที่ที่คนร้ายฝากเงินไว้
โดยคนร้ายต้องการโอนเงินจำนวนดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ผู้เสียหายเพื่อใช้ซื้อคอนโดสำหรับเป็นที่อยู่ร่วมกัน แต่การขนส่งเงินนั้นต้องจ่ายค่าภาษีจำนวน 30,000 บาท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชีนายอานนท์ วิริยะพงษ์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 64 เวลา 12.05 น.
จากการสอบสวนนายอานนท์ ให้การว่า ตนเป็นผู้ทำการเปิดบัญชีดังกล่าวเพื่อหาเงินไปซื้อจากเสพติด หลังถูกออกหมายจับได้หลบหนีทำงานเป็นรปภ.ย่านร่มเกล้า จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ทั้งนี้กก.ดส. จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในรูปแบบ โรแมนซ์สแกม โดยอย่าหลงเชื่อโอนเงินให้คนแปลกหน้าที่เข้ามาทำการพูดคุยผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในขบวนการ โรแมนซ์สแกม โดยมีผู้เสียหายอีกหลายรายรวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
