ผัวเก่าหึงโหด ยิงเมีย-ชายคนสนิท เสียชีวิตคาวงเหล้า 2 ศพ ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนีไปในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เผยนาทีสลด ฝ่ายหญิงตะโกนลั่น “ข่อยยอมแล้ว”

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 9 มี.ค.2565 ร.ต.ท.พิสิษฐ์ จองจารูวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันเสียชีวิต บริเวณข้างบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต, เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ, เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต, แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.สุชาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขา แขน และศีรษะจำนวนหลายนัด ใกล้กันพบศพ นายจณุกิตติ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะ 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล และหน้าอก 1 แผล นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบขวดเบียร์ตั้งอยู่บนโต๊ะจำนวนหนึ่ง และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 6 ปลอก

ผัวเก่าหึงโหด ยิงเมีย-ชายคนสนิท เสียชีวิตคาวงเหล้า 2 ศพ ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนีไป

ผัวเก่าหึงโหด ยิงเมีย-ชายคนสนิท เสียชีวิตคาวงเหล้า 2 ศพ ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากการสอบถาม นางเชาร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้นั่งกินเบียร์กันอยู่กับผู้ตายทั้งสองคนและผู้ก่อเหตุชื่อ นายเลิศ พร้อมทั้งน้องสาว ซึ่งเวลาประมาณ 02.00 น. ตนบอกว่าแยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้ว เพราะตอนเช้าต้องทำงาน ซึ่งตนก็นั่งอยู่บนโต๊ะ

นางเชาร์ กล่าวต่อว่า ซึ่งนายเลิศก็ยืนวนเวียนอยู่ที่โต๊ะ ส่วนนางสุชาดานั่งอยู่ กระทั่งนายเลิศใช้ปืนยิงที่ขา จากนั้นนายจณุกิตติ์ก็พยายามเข้าแย่งปืน ส่วนตนก็เข้าไปแอบอยู่ภายในห้องน้ำ หลังจากนั้นนายเลิศก็เข้าไปยิงนางสุชาดาอีก ซึ่งสุชาดาพูดเป็นภาษาอีสานว่า “ข่อยยอมแล้ว ข่อยยอมแล้ว” แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟังแล้วยิงใส่นางสุชาดาอีกหลายนัด ซึ่งตนก็ไม่กล้าออกมาดูเพราะได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด

นางเชาร์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุนายเลิศได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา นายเลิศได้ขึ้นโรงพักมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยแจ้งความในลักษณะชู้สาว เพราะนายเลิศได้ทวงสร้อยคอทองคำและแหวนทองกับนางสุชาดาซึ่งเป็นอดีตภรรยา แต่นางสุชาดาบอกว่าได้นำไปขายแล้ว ซึ่งตำรวจบอกว่าไปทวงไม่ได้ เพราะให้ด้วยความเสน่หา ซึ่งนางสุชาดากับผู้ก่อเหตุก็รัก ๆ เลิก ๆ กันอยู่แบบนี้ตลอด ส่วนนายจณุกิตติ์เพิ่งคบกับฝ่ายหญิงได้เมื่อเดือนที่แล้วเอง

ด้าน ร.ต.ท.พิสิษฐ์ หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตทั้งสองคนส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.ปากคลองรังสิตติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน