ฉก.กรมการปกครอง บุกทลายธุรกิจค้ามนุษย์ ในสถานบริการย่านสุขุมวิท รวบแม่เล้าเสนอขาย บริการทางเพศ พบเหยื่ออายุต่ำกว่า 18 ปี 3 ราย

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 15 มี.ค. 2565 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” เข้าช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมขบวนการนายหน้า เสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในสถานบริการไม่มีใบอนุญาตย่านสุขุมวิท พบเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิงหน้าตาดี อายุน้อยสุดเพียง 14 ปี

สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ โอเปอร์เรชัน อันเดอร์กราวน์เรลโรด (โอ.ยู.อาร์.) ขอให้กรมการปกครองตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีพบบุคคลมีพฤติการณ์ในการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

กรมการปกครองโดยสำนักการสอบสวนและนิติการได้สืบสวนแล้วพบบุคคลมีพฤติการณ์เป็นนายหน้านำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เสนอขายบริการทางเพศให้กับนักเที่ยวที่มาใช้บริการในสถานบริการ ชื่อ 789 บาร์ ภายในซอยสุขุมวิท 7 โดยแม่เล้าทำหน้าที่เชียร์แขกให้ดื่มเหล้าเบียร์และโฆษณาขายบริการทางเพศกับนักเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย หากลูกค้าถูกใจสามารถจ่ายค่าตัวแล้วพาเด็กออกไปร่วมประเวณีได้ทันที

ขณะเข้าจับกุมพบร้านเป้าหมายและบริเวณโดยรอบ กว่า 30 ร้าน ล้วนมีลักษณะเป็นผับ บาร์ กำลังเปิดเพลงดื่มกินอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นเจ้าพนักงานเข้ามาตรวจสอบต่างพากันทยอยปิดร้านกันอย่างรวดเร็ว

พนักงานฝ่ายปกครองได้เข้าจับกุมตัวน.ส.รัชดา ศรีตะเขต อายุ 42 ปี มีพฤติการณ์เป็นแม่เล้าแสวงหาประโยชน์จากการนำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ โดยตั้งข้อหาหนัก ในความผิดฐานค้ามนุษย์ , เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ,จัดให้มีการค้าประเวณี ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และความผิดฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้สามารถช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้ 3 ราย โดยมีเด็กอายุน้อยสุดเพียง 14 ปี ซึ่งได้นำตัวเด็กหญิงผู้เสียหายทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ถูกจับได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี ดำเนินคดีต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการกรมการปกครอง เผยว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 แล้ว ไม่คิดว่าจะยังมีธุรกิจแบบนี้อยู่ใจกลางกรุงเทพ

วันนี้เราพบว่าแม่เล้ามีการนำเด็กหญิงมาเสนอขายให้ลูกค้าทั้งชาวต่างชาติและลูกค้าชาวไทยที่มาเที่ยวสถานบริการเลือกซื้อบริการทางเพศ ไม่ต่างจากเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเด็กเยาวชนไทย

ผู้ประกอบการการสถานบันเทิงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม สถานบริการเป็นสถานที่ต้องห้ามมิให้เยาวชนเข้าไปทำงาน หากพบมีพฤติการณ์แอบแฝงค้าประเวณีเด็กซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ จะมีโทษตามกฎหมายสูงมาก

ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์ หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์สามารถแจ้งผ่านระบบรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ damrongdhama.dopa.go.th/ หรือ แอพพลิเคชั่น “Dopa Help” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android

นายสุปรีย์ เสาวิจิตร ผอ.โอ.ยู.อาร์. เปิดเผยว่า ผู้กระทำความผิดมักจะเลือกเด็กหรือบุคคลที่มีความเปราะบางอันเนื่องมาจากฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม หรือ การไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงจากผู้ปกครอง หรือขาดความยับยั้งชั่งใจจากการหลอกล่อของผู้กระทำความผิด

โอ.ยู.อาร์.ในฐานะองค์การไม่แสวงหากำไรระหว่างประเทศ ที่จัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในเด็ก จะสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหาย และครอบครัว ในการฟื้นฟู ดูแลในระยะยาว ทั้งด้านกระบวนการยุติธรรม การศึกษา ครอบครัว และปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ ได้มีโอกาสที่ดีกว่าในการดำเนินชีวิตต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน