สืบนครบาล 1 รวบเครือข่ายยาเสพติด ภาคเหนือ ยึดยาบ้า 3.6 แสนเม็ด ยาเค 1 พันขวด พบอาวุธปืนสงครามกว่า 10 กระบอก กระสุน 3,000 นัด คาดเตรียมไว้ตอบโต้ เจ้าหน้าที่
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2565 ที่บช.น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง รองผบก.บก.น.1 พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.ศุภกร อ้นสุวรรณ์ รอง ผกก.บก.น.1
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมน.ส.รัศมี จิตรขุนทด อายุ 44 ปี ชาวจ.นครสวรรค์ นางรัชนี ขัติยะ อายุ 63 ปี ชาวจ.เชียงราย นายเจริญ ขัติยะ อายุ 54 ปี ชาวจ.เชียงราย นางพรไพลิน ขัติยะ อายุ 51 ปี ชาวจ.เชียงราย นายจตุพร ผาสุขสุนทรนนท์ อายุ 19 ปี ชาวจ.เชียงราย
พร้อมของกลางยาบ้า 360,000 เม็ด ยาเคน้ำ 1,170 ขวด ยาอี 568 เม็ด แม็กกาซีน 4 อัน เสื้อเกราะ 2 ตัว ลูกปืน ขนาด .22 จำนวน 450 นัด เครื่องตัดสัญญาณ 1 เครื่อง อาวุธปืนยาว 10 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 3,472 นัด ปลอกลดเสียง 5 ชิ้น และชุดเครื่องลั่นไก 2 ชุด
จับกุมได้ที่ห้องพักในเอื้ออาทรคู้บอน 27 ถ.คู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ และที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเบญญาภา คาซ่า ถนนพัฒนาชนบท 4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพ
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตำรวจ กก.สส.บก.1 และ ชปส.บก.น.1 สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งมีนายซิม น.ส.บี และน.ส.หมวย ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดเป็นกระบวนการ และอยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว โดยจะมีการจำหน่ายยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทหลายประเภท
ตำรวจจึงติดตามสืบสวนจนทราบว่าหนึ่งในกลุ่มที่จำหน่ายยาเสพติดคือ น.ส.รัศมี หรือหมวย พักอาศัยอยู่ที่อาคารเอื้ออาทรคู้บอน 27 ตึก 52 จึงได้ทำการสืบสวนต่อถึงวันที่ 26 มีนาคม ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามมาถึงบริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคารดังกล่าว
พบน.ส.รัศมี จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 10,000 เม็ด ในกระเป๋าถือสีชมพูที่น.ส.รัศมี ถืออยู่ในมือข้างขวา จึงได้ทำการจับกุมพร้อมทั้งนำตัวน.ส.รัศมี ไปนำตรวจค้นห้องพักเพื่อตรวจยึดยาเสพติดและของกลางทั้งยาเสพติดและอาวุธปืนหลายรายการ
จากการสอบสวนน.ส.รัศมี ให้การว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของนายซิม หรือบอส และน.ส.บี ซึ่งตนจะทำหน้าที่รับส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าตามตามคำสั่งของนายซิม และน.ส.บี โดยนายซิม ได้ให้ตนซื้อบ้านในหมู่บ้านบุญญาภา คาซ่า ให้เมื่อประมาณปี 2559 โดยได้ใช้ชื่อนางสาวรัศมี เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านหลังดังกล่าว
ต่อมาตำรวจได้จับกุมนางรัชนี นายเจริญ นางพรไพลิน นายจตุพร พร้อมขยายผลตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบยาเสพติดและของกลางได้อาวุธปืนยาวจำนวน 10 กระบอก ยาอี จำนวน 568 เม็ด เครื่องกระสุนปืน จำนวน 3,001 นัด .ปลอกลดเสียง จำนวน 5 ชิ้น ชุดเครื่องลั่นไก จำนวน 2 ชุด
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวต่อว่า ส่วนอาวุธปืนสงครามที่ได้เก็บไว้ คาดว่าผู้ต้องหาคงชอบอาวุธปืนสั้น เหมือนเป็นการฝึกไปในตัว รวมถึงอาวุธปืนยาวใช้เตรียมไว้ในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ทั้งสไนเปอร์ ปืนกลมือ กล่องเก็บเสียง เครื่องตัดสัญญาณและโทรศัพท์ดาวเทียม ส่วนการหาซื้อเป็นอุปกรณ์ที่มีเงินก็หาซื้อได้
เบื้องต้นได้ตรวจยึดทรัพย์สิน พระบูชา จำนวน 25 องค์ รถยนต์ 2 คัน รถจยย. 2 คัน ตู้เซฟ 1 ตู้ โฉนดที่ดินบ้านในหมู่บ้านเบญญาภา คาซ่า มูลค่าประมาณ 5.8 ล้านบาท สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 8 บัญชี สลากออมสิน 1 ฉบับ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 7,430,000 บาท
พร้อมแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (ยาเคหรือคีตามีน) ไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่ รมต.ประกาศกำหนดเพื่อขาย
มีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเสื้อเกราะป้องกันกระสุนหรือป้องกันสะเก็ดระเบิดอยู่ในชนิดยุทธภัณฑ์ที่ผู้ใดมีไว้ในครอบครองต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
