ครอบครัวเศร้า นำศพ พ่อค้าแผงขายอาหาร ถูกยิงดับหน้าร้านที่อ่าวนางกลับบ้านเกิด เหมือนเป็นลาง! แม่ เผย เพิ่งทำ ประกันชีวิต ให้ลูกได้ 14 วัน
จากกรณี นายเอกรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี พ่อค้าแผงขายไก่ทอด ก่อเหตุชกต่อยกับ นายวุฒิเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เจ้าของแผงอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง 3-4 คน คาดว่า เป็นเพื่อนกับ นายเอกรัตน์ คอยกันไม่ให้คนเข้าแยกขณะทั้งสองชกต่อยกัน จากนั้น นายเอกรัตน์ ชักปืนยิงใส่ นายวุฒิเดช 1 นัด เข้าที่หน้าอก จนล้มและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้าลูกชายวัย 2 ขวบของผู้ตายและนักท่องเที่ยว รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าร้านใกล้เคียงด้วย ย่านสถานบันเทิง อาซีเอ อ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ส่วนนายเอกรัตน์ หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ติดตาม จับกุมตัวได้ที่บ้านพักในเวลาต่อมา พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง โดยมีปัญหาขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องขายของซ้ำกันในแผงอาหารย่านสถานบันเทิง อาร์ซีเอ อ่าวนาง เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ” เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 พ.ค.2565 ญาติของ นายวุฒิเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ได้นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ที่มัสยิสบ้านหัวหรั่ง ก่อนนำศพไปฝังยังกุโบว์บ้านหัวหรั่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา
นางอาบียะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงรายอที่ผ่านมา ต้นเหตุของเรื่องคือ ผู้ก่อเหตุและตนได้มีเรื่องทะเลาะกันเกี่ยวกับการขายของ ที่เป็นร้านฝั่งตรงกันข้าม เหมือนผู้ก่อเหตุจะอ้างเป็นเจ้าถิ่นพยายามรังแก จนโต้เถียงกัน แต่ก็ไม่ได้มีการเคลียร์หรือพูดคุยกันอย่างไร โดยสามียังขายของปกติ จนกระทั่งมาก่อเหตุทะเลาะวิวาทแล้วใช้อาวุธปืนยิงสามีจนเสียชีวิต
ด้าน นางไรนัด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี ไม่มีนิสัยเกเร หรือชอบระรานใคร และเป็นเสาหลักของครอบครัว ไปทำงานส่งเงินกลับมาให้พ่อแม่ตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายได้กลับมาอยู่บ้านระยะหนึ่งในช่วงวิกฤตโควิค แต่พอเริ่มเปิดการท่องเที่ยวก็ได้กลับไปยังอ่าวนางที่กระบี่ เพื่อไปเปิดร้านขายของที่ทำมากว่า 10 ปี ได้ 3 เดือนจนถูกเจ้าถิ่นยิงเสียชีวิต
“แม่ไม่เอะใจเลยว่าลูกจะมาเสียชีวิตแบบนี้ ทั้งที่ไม่มีลางสังหรณ์อะไร แม่เพิ่งได้ทำประกันชีวิตกับกองทุนหมู่บ้านได้เพียง 14 วัน แต่ไม่นึกว่าเหตุการณ์จะเกิดกับเขามันเร็วเกินไป” แม่ของผู้ตาย กล่าว