เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว โพสต์นาที ไอ้โม่งบุกเดี่ยว งัดบ้านยกตู้เซฟ สูญ1.3 แสน
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “น้องทา เย็นตาโฟ กฤติกรธนโชติ” โพสต์ภาพวงจรปิดคนร้าย และข้อความเตือนภัย หลังจากที่บ้านพักถูกโจรงัดบ้านบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินมีค่าไปได้จำนวนมาก และต้องการให้ชาวบ้านในละแวกกล้เคียงเพิ่มความระมัดระวังเอาไว้ด้วยนั้น จึงได้ติดต่อและเดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ และพบกับผู้โพสต์คือ นางภัทรญา กฤติกรธนโชติ อายุ 47 ปี และ นายชาญณรงค์ พรพิริยะพงษ์ สองสามีภรรยา ที่บ้านเลขที่ 14 ถ.เทศบาล 26 ซ.5 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเปิดหน้าบ้านเป็นร้านขายของชำ ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ และร้านขายก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ
นางภัทรญา หรือ พี่ทา เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.15 น. ของวันที่ 5 พ.ค. 65 มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน และคลุมหัวคล้ายไอ้โม่ง บุกเข้ามาขโมยทรัพย์สินของมีค่าภายในบ้านไปหลายรายการคนร้ายใช้วิธีเดินเลียบมาทางข้างบ้านด้านขวา เพื่อไปยังประตูหลังบ้าน และใช้ไขควงงัดประตูลูกบิดจนสามารถเปิดประตูหลังได้ ในวันนั้นตนลืมล็อกกุญแจประตูเหล็กชั้นใน คนร้ายจึงสามารถเข้ามาในบ้านได้อย่างไม่ยาก
จุดแรกคนร้ายได้คลานเข่าเข้าไปดูในห้องนอนด้านหน้าที่เปิดประตูแง้มเอาไว้ โดยนอนกันอยู่ 3 คน คือ ตน ลูกชายวัย 13 ปี และ แม่อายุ 90 ปี ส่วนสามีนั้นนอนอยู่อีกหลังที่เปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เพราะ ต้องคอยเฝ้าของในร้านด้วย ในห้องคนร้ายคลานเข้าออกค้นหาทรัพย์สิยอยู่นาน 5 ครั้ง ได้ตะกร้าซึ่งภายในมีเงินสดอยู่กว่า 20,000 บาท และยังมีเงินสดประมาณ 10,000 บาท ที่วางอยู่อีกมุมในห้อง ส่วนเอกสารต่างๆที่อยู่ในตะกร้าคนร้ายได้เอาไปทิ้งในห้องน้ำ และใช้น้ำราดใส่เปียกไปทั้งหมด แต่ยังโชคดีที่โทรศัพท์มือถือคนร้ายได้ลืมเอาไว้ในห้องครัว
ต่อมาคนร้ายพุ่งเป้าไปที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของแม่ที่ล็อกอยู่ ไปหยิบเอามีดพร้าในบ้านมางัดตูเสื้อผ้า และยกเอาตู้เซฟขนาดเล็กกว้างคูณยาวประมาณ 1 ฟุต ยกออกไปด้วย ซึ่งภายในมีสร้อยคอทองคำ 2 เส้น เป็นสร้อยคอหนัก 2 บาท 1 เส้น และสร้อยคอหนัก 1 บาท 1 เส้น รวมน้ำหนัก 3 บาท และยังมีเงินสดอีกประมาณ 1 หมื่นบาท จากนั้นยังไปขโมยเอาพระที่อยู่บนหิ้งหระกลางบ้านไปด้วยอีกหลายองค์ ทั้งพระพุทธรูปบูชาหลวงปู่ทวด รุ่นฉลองรัชกาลที่ 9 ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว ราคาประมาณ 4,000 บาท และพระเครื่องต่างๆที่ได้จากการไปร่วมงานบุญอีกราว 10 เหรียญ หลบหนีไปด้วย โดยไม่ทราบว่าใช้ยานพาหนะชนิดใด เนื่องจากกล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้
นางภัทรญา บอกด้วยว่า คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในช่วงเวลาประมาณ 03.15-04.00 น. และกว่าจะทราบเรื่องก็ประมาณ 04.30 น. เพราะ ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นประตู และไฟในห้องนอนของแม่เปิดอยู่ และพบว่าว่า มีทรัพย์สินถูกรื้อค้น จึงเรียกสามีที่นอนอยู่อีกหลังมาดู ตรวจสอบทรัพย์สิน รวมทั้งแจ้งตำรวจ โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปนั้น มีมูลค่ารวมกว่า 130,000 บาท
ส่วนในทางคดีทางผู้เสียหายได้ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้านพักเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งลุง แล้วในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ และทางตำรวจ รวมทั้งชุดสายตรวจ และชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ก็ได้เข้าเก็บพยานหลักฐานต่างๆแล้ว โดยเฉพาะมีดพร้าที่คนร้ายใช้งัดตู้เสื้อผ้าในห้องนอน และขโมยเอาตู้เซฟไป ก็ยังถูกวางทิ้งเอาไว้ ซึ่งจะมีการนำไปตรวจหาดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง เพื่อใช้สืบสวนหาตัวคนร้าย และนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดี
ส่วนที่นำภาพไปโพสต์ก็อยากขอให้ทางตำรวจเร่งสืบสวนหาตัวหัวขโมยรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นภัยต่อสังคมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และอาจจะมีการตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ซ้ำอีก
