ตร.ภ.1เร่งล่า 2ผัว-เมีย ใช้รถพยาบาลขนยาบ้า ประสานกู้ภัย-สพฉ. จัดระเบียบรถฉุกเฉิน จนท.อาสา

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมตำรวจสืบสวนจังหวัดสระบุรี แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายลําเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำมาจําหน่ายและแพร่กระจายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้รถพยาบาลขนยาบ้า พร้อมของกลาง ยาบ้า จํานวน 2,250,000 เม็ด

ตำรวจสามารถจับกุม นายสมพงษ์ อายุ 23 ปี และ นายพิทวัส อายุ 23 ปี ที่ทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบนำทางและรถพยาบาลฉุกเฉิน ที่ใช้ขนยาบ้า ได้ที่ยึดได้ซอยหทัยราษฎร์ 39 ย่านมีนบุรี

ใช้รถพยาบาลขนยาบ้า

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 แถลงความคืบหน้า

ส่วนนายจิรายุทธหรือโด้ และ น.ส.ทิพวรรณหรือทิพย์ 2 สามีภรรยา เจ้าของรถพยาบาล และนายชาญณรงค์หรือไอซ์ คนขับกระบะกู้ภัย พา 2 สามีภรรยาหลบหนี ตำรวจ อยู่ระหว่างติดตามตัวจับกุม และรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ทั้ง 3 ราย ซึ่งขณะนี้ ตำรวจสามารถตรวจยึดรถกระบะกู้ภัยที่ใช้พาหลบหนีได้แล้ว ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย กรุงเทพ

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้น ทราบตัวคนร้าย 3คนที่หลบหนีแล้ว อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว โดยขบวนการนี้มีผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ รวม 5 คน ซึ่งตำรวจจะดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” ใน 4 ราย ส่วนอีก 1 รายที่พา 2 สามีภรรยาหลบหนี อยู่ระหว่างพิจารณาข้อหา “ให้ที่พักพิง สนับสนุนช่วยเหลือผู้ก่อเหตุรุนแรง”

ใช้รถพยาบาลขนยาบ้า

ยาบ้าของกลาง

ส่วนพฤติการณ์ของคนร้าย สืบทราบว่า ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยจะทำหน้าที่เป็นชุดรับจ้างลำเลียงยาเสพติด จากชายแดนภาคอีสาน เข้ามาส่งและจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑล ได้ค่าจ้างครั้งละ 1.5 – 3 แสนบาท ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายจิรายุทธ และน.ส.ทิพวรรณ 2 ผัวเมีย ได้ขับรถพยาบาลฉุกเฉินข้ามเขต จากกรุงเทพไปรับยาบ้าที่ จ.เลย และมีรถกระบะตู้ทึบ นำทางกลับเข้ากรุงเทพอีกครั้ง








Advertisement

หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลไปยังนายทุน หรือผู้บงการที่สั่งการ 2 ผัวเมีย และตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วันนี้ ตำรวจยังได้เชิญหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ผู้บังคับการ 9 จังหวัดในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และมูลนิธิกู้ภัย 9 จังหวัด

มาวางแนวทางจัดระเบียบรถพยาบาลฉุกเฉินและรถกู้ภัย เนื่องจากมีบางส่วนที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สพฉ. ทำให้ไม่สามารถดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในรายละเอียด จะให้แต่ละหน่วยงานเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีตำรวจเป็นตัวกลาง เพื่อให้ทุกฝ่ายทำงานประสานสอดคล้อง เป็นแนวทางเดียวกัน

พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เผยว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาสองคนที่ถูกจับกุม รับสารภาพว่า เป็นผู้สั่งการ และว่าจ้างให้ 2 สามีภรรยา ขับรถพยาบาลไปรับยาบ้าที่จังหวัดเลย มาซุกซ่อนไว้ที่กรุงเทพ จากนั้นก็จะมีคนมารับอีกทอดหนึ่ง

ส่วนนายไอซ์ ที่ทำหน้าที่มารับพา 2 สามีภรรยาหลบหนี อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ แต่ตำรวจจะต้องออกหมายจับในฐานะให้การสนับสนุน พร้อมยืนยันว่ากระบวนการดังกล่าวมีทั้งหมด 5 คน ซึ่งตำรวจมีหลักชัดเจน เชื่อว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็วๆนี้ ส่วนตัวนายทุน หรือตัวการใหญ่นั้น ตำรวจมีข้อมูลบางส่วนแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรวบพยานหลักฐาน

ต่อมาพล.ต.ต.จิรพัฒน์ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ผู้บังคับการ 9 จังหวัดในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และมูลนิธิกู้ภัย 9 จังหวัด ว่า หลังจากนี้จะมีการรวบรวมข้อมูล การขอใบอนุญาตที่ถูกต้องของรถลำเลียงผู้ป่วย รถ สพฉ. รวมถึงรถที่อยู่ในความดูแลของ อบต. และ อบจ.

ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด หากมีข้อมูลครบถ้วนแล้วก็จะรวบรวมไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้เทคโนโลยีมาช่วยจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูล โดยเบื้องต้น ได้สั่งการ ภูธรจังหวัด ทั้ง 9 จังหวัด ให้รวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน พร้อมกำชับให้กวดขันรถที่มีลักษณะคล้ายรถพยาบาล แต่ไม่ติดสังกัดให้ชัดเจน

นางพรอุมา อุบลรัตน์ ตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู ยอมรับว่า ทางมูลนิธิฯ ผิดพลาดในการตรวจสอบข้อมูลเจ้าหน้าที่ก่อนจะตัดสินใจรับเข้ามาปฏิบัติงาน แต่พร้อมจะแก้ไขปัญหา รถกู้ภัย-กู้ชีพที่อยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิร่วมกตัญญู ใน 9 จังหวัดภูธรภาค 1 ขึ้นทะเบียนถูกต้องแล้วกว่า 100 คันจากทั้งหมดกว่า 400 คัน ส่วนบุคคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทำบัตรประจำตัวอาสาฯ จึงยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน