พ่อตา แค้นแทนลูกสาว ควง 9 มม. บุกถล่มยิง ลูกเขย 15 นัด เสียชีวิตคาบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง ด้าน เมียผู้ตาย เผยปมทะเลาะบ่อย ถูกห้ามออกจากบ้านด้วย

เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 4 ก.ค.2565 ร.ต.อ.ทรงวุฒิ ทองสม รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.รัษฏา รับแจ้งเหตุพ่อตาใช้อาวุธปืนยิงลูกเขยเสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ต.เขาไพร อ.รัษฏา จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ตรัง, ฝ่ายปกครอง แพทย์เวรโรงพยาบาลรัษฏา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรัง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านและภายในบ้านพบปลอกกระสุนตกอยู่เกลื่อนกว่า 20 ปลอก และหัวกระสุนปืนอีกจำนวนหลายหัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน บริเวณทางเดินเข้าห้องกลางของบ้าน พบศพ นายประพันธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังทั่วร่าง 10-15 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด

พ่อตา แค้นแทนลูกสาว ควง 9 มม. บุกถล่มยิง ลูกเขย 15 นัด เสียชีวิตคาบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง

พ่อตา แค้นแทนลูกสาว ควง 9 มม. บุกถล่มยิง ลูกเขย 15 นัด เสียชีวิตคาบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง

ต่อมา นายนิคม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อตาของผู้ตายและเป็นผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฏา พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ 1 กระบอก เบื้องต้นได้ให้การรับสารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยขับรถออกจากบ้านห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ 2-3 กิโลเมตร เนื่องจากความโกธรแค้นที่ลูกสาวถูกผู้ตายหาเรื่องชวนทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน

จากการสอบถาม น.ส.สุนารี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า ตนกับผู้ตายมีลูกด้วยกัน 4 คน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งแยกกันอยู่มาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้ตาย ก็ได้เข้าออกบ้านหลังนี้มาโดยตลอด จนวันนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาพูดคุยกับตน ขอกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน พร้อมกับพูดว่า “ถ้าไม่ให้กูอยู่ ไม่กูตายมึงก็ตาย”

น.ส.สุนารี กล่าวต่อว่า เมื่อตนได้ยินก็เกิดความกลัว จึงรีบขับรถจักรยานยนต์ออกไปบ้านพี่สาวของผู้ตายที่อยู่ห่างประมาณ 100 เมตร พร้อมโทรให้ลูกสาวมาช่วยคุยกับผู้ตายให้กลับไปนอนที่บ้าน แต่กลับถูกปิดประตูใส่ไม่ยอมคุยด้วย ตนจึงไม่กล้ากลับบ้าน ต่อมาตนได้ยินเสียงดังคล้ายปืนดังขึ้นหลายครั้งใกล้ ๆ บ้านพี่สาวผู้ตายแต่ไม่กล้าออกมาดู ก่อนมาทราบจากลูกสาวภายหลังว่าสามีถูกพ่อของตนยิงเสียชีวิตแล้ว

“ที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่คบหากับนายประพันธ์มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้งในเรื่องหึงหวง โดยถูกผู้ตายสั่งไม่ให้คุยกับใคร ไปนอกบ้านหรือทำงานก็ไม่ได้ ขณะเดียวกันผู้ตายมักเสพยาเสพติด เราทนไม่ไหวจึงได้เลิกรากัน พ่อของเราเคยสอบถามอยู่บ่อยครั้ง แต่เราก็ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง และไม่รู้สาเหตุว่าทำไมพ่อต้องใช้อาวุธปืนยิงใส่นายประพันธ์จนเสียชีวิต” น.ส.สุนารี กล่าว

ด้าน นางปรียานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พี่สาวของผู้ตาย กล่าวว่า นายประพันธ์น้องชายได้เลิกรากับภรรยานานแล้ว เท่าที่เห็นทะเลาะกันในเรื่องหึงหวงยู่บ่อยครั้ง โดยมักมาเฝ้าน.ส.สุนารีไม่ให้ออกไปไหน จนเลิกรากันไป หลังจากนั้นผู้ตายก็จะมาที่บ้านแฟนเก่าบ่อยครั้ง โดยมักนำของกินของใช้มา และพูดคุยกับลูกที่พิการ ส่วนสาเหตุที่ถูกนายนิคมใช้ปืนยิงจนเสียชีวิต ตนไม่ทราบสาเหตุว่ามีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาน้องชายตนมีปัญหาเสพยาเสพติด ถูกจับอยู่บ่อยครั้ง

จากการพลิกแฟ้มประวัติพบว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่งพ้นโทษในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติด เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.64 หรือ 7 เดือนที่ผ่านมา และเคยต้องคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดมาจำนวนหลายคดี ส่วนนายนิคม ซึ่งเป็นพ่อตา เคยต้องคดีและพัวพันในคดีก่อเหตุยิง 2 สามีภรรยาเมื่อหลายปีก่อนแต่ได้ประกันตัวสู้คดี ไม่ได้ต้องโทษคุมขังแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน