ตร.ฝากขัง แม่เด็ก 9 ขวบ พร้อม 2 ผู้ต้องหาซื้อบริการแล้ว พบเงินหมุนเวียนเป็นแสน เตรียมขยายผลการดำเนินคดีไปยังผู้ซื้อบริการ-ซื้อคลิปอนาจารรายอื่น

กรณีตำรวจปคม.เข้าจับกุม น.ส.จันทรา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ที่นำเอาบุตรสาว วัย 9 ขวบ มาขายบริการทางเพศ พร้อมกับบันทึกคลิปวิดีโอนำออกขายทางโซเชียล อีกด้วย รวมทั้งยังจับกุมนายชาคลีฟ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี และนายทศพล (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ลูกค้าที่เคยมาซื้อบริการฯ กับเด็กผู้เสียหาย ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันที่ 13 ก.ค.65 พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. สั่งการให้ ทำการสืบสวนขยายผลว่า น.ส.จันทรา พาลูกสาวไปขายบริการทางเพศ หรือขายคลิปวิดีโอลามกอนาจารให้กับผู้ใดอีก และมีผู้ใดนำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปเผยแพร่ หรือส่งต่ออีกหรือไม่ หากพบได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกรายทันที

ด้าน พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม.เปิดเผยว่า ภายหลังการสอบสวนน.ส.จันทรา นั้นให้การรับสารภาพ ส่วนนายทศพล ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ซื้อบริการจากเด็กจริง แต่ว่าแม่ของเด็กเป็นคนถ่ายคลิปเอง ตนไม่เกี่ยวข้อง มีเพียงนายชาคลิฟ เท่านั้นที่ยังให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น โดยเมื่อเช้าที่ผ่านได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามไปขอฝากขังต่อศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัวอีกด้วย

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้จะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือตัวของน.ส.จันทรา ที่พบพฤติกรรมนำลูกมาขายบริการ และถ่ายคลิปฯเอาไว้เพื่อนำออกขาย จากการตรวจสอบก็พบว่า ตั้งแต่ ปี 2563-2565 พบมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา อยู่ประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขายคลิปอนาจาร

ส่วนกรณีที่นำลูกขายไปขายบริการฯ นั้นทำมาแค่ 5 ครั้งเท่านั้น เพราะลูกไม่ชอบ ซึ่งจากตรวจสอบหลักฐานส่วนตัวของผู้ต้องหา ทั้งในโทรศัพท์ และบัญชีเฟซบุ๊ก ก็พบว่า ผู้ต้องหาได้ลบข้อมูลไปจนเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอกู้ข้อมูลส่วนนี้กลับมา ก่อนนำมาใช้เป็นหลักฐาน ประกอบกับเส้นทางการเงินจากบัญชีธนาคารฯ ของผู้ต้องหาว่า มีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง ก่อนจะขยายผลการดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนรายของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่เป็นผู้ซื้อบริการจากลูกสาวของน.ส.จันทรา ก็จะต้องมีการตรวจสอบต่ออีกด้วยว่า นอกจากจะเคยซื้อบริการกับเหยื่อรายนี้แล้ว ยังเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับผู้เสียหายรายอื่นอีกหรือไม่ หากพบก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย​

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มีความห่วงใยต่อเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพราะเนื่องจากจะได้รับความเสียหายทางด้านร่างกายที่เกิดขึ้นแล้ว ยังจะส่งผลกระทบต่อจิตใจที่จะฝังรากลึก จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในอนาคตได้

จึงขอฝากเตือนพ่อเเม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ขอให้สังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานว่า มีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่ หากพบก็สามารถเเจ้งเบาะเเสเข้ามาทาง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ทันทีด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน