พี่ ลั่น ไม่อโหสิ-ยอมตัดขาด ปม มรดกเลือด เผยเหตุน้องถูกยิงดับกลางทุ่ง

พี่ชาย ลั่น ไม่อโหสิกรรม ยอมตัดขาดจากกัน ปม มรดกเลือด ยืนยัน น้องชายถูกยิงเสียชีวิตกลางทุ่งนาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพราะความโลภ

จากกรณี นายทองด้วง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี ก่อเหตุยิง นายคำจู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เสียชีวิตบริเวณกลางทุ่งนา ต.ซับสมบูรณ์ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ไชย เข้าทำการควบคุมตัวไว้ได้พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก ขณะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : มรดกเลือด! เฒ่า 71 แม่นกว่าเหน็บ 2 กระบอก ดวลปืนญาติรุ่นลูกหน้าคว่ำดับ

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ก.ค.2565 ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.โพธิ์ไชย อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนายคำจู โดยนางฮู้คาม (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยา และลูก รวมถึงญาติพี่น้องได้นำศพ นายคำจูมาตั้งสวดพระอภิธรรมเป็นที่เรียบร้อย มีญาติพี่น้องมาร่วมงานจำนวนมาก

นางฮู้คาม กล่าวว่า ไม่เคยรู้เรื่องที่สามีมีข้อพิพาทกับฝ่ายนายทองด้วง ในเรื่องที่ดินมาก่อน เพราะตนและครอบครัวทำมาหากินอยู่ต่างจังหวัด แทบจะไม่ได้กลับมาที่บ้าน แต่เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา สามีบอกว่าจะกลับมาดูบ้านและซ่อมแซมบ้าน จึงปล่อยให้สามีกลับมาคนเดียว

นางฮู้คาม กล่าวต่อว่า พอเย็นวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติโทรศัพท์ไปแจ้งว่า สามีถูกนายทองด้วงยิงเสียชีวิต จึงรีบกลับมาที่บ้านรับร่างสามีมาสวดอภิธรรมศพดังกล่าว ส่วนข้อพิพาทเรื่องที่ดินของเครือญาตินั้น ตนเป็นภรรยานายคำจู แต่ไม่เคยได้ยินนายคำจูพูดหรือบ่นให้ฟังแต่อย่างใด

ด้าน นายวิญญู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี พี่ชายของผู้ตายและคนอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า จุดเกิดเหตุยิงกันตายนั้น เป็นที่ดินมรดกประมาณ 30 ไร่ ที่มารดายกให้ลูก ๆ ทำกิน แต่นายทองด้วง อยากได้เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง จึงไปยื่นฟ้องศาล เนื่องจากบิดานายทองด้วงเป็นพี่ชายมารดาของตนและนายคำจู

นายวิญญู กล่าวต่อว่า โดยนายทองด้วงถือสิทธิ์ว่า ตัวเองเป็นลูกหลานของปู่ย่า ผู้เป็นพ่อแม่ของบิดาตนก็ควรจะได้ที่ดินแปลงดังกล่าวด้วย จึงมีปัญหากันมาตลอด ลูกหลานไม่มีใครสามารถเข้าไปทำกินในที่ดินดังกล่าวได้ และขณะนี้เรื่องฟ้องร้องก็อยู่ในชั้นศาล

“ก่อนเกิดเหตุผมและนายคำจูกำลังปรับพื้นดินที่บ้าน เพื่อจะเทพื้น ก็ได้รับโทรศัพท์จากนางคู ซึ่งเป็นน้องสาวของผมและเป็นพี่สาวคนตาย แจ้งว่า นายทองด้วง พร้อมลูกชาย ขับรถแม็คโครไปไถบุกเบิกในที่ดิน ขอให้ออกไปดูด้วย จึงพากันขี่รถจักรยานยนต์ออกไปในที่นา ก็พบว่า นายทองด้วงกำลังขับรถแม็คโครไถเบิกในที่ดินอยู่ ส่วนลูกชายอีก 3 คน ยืนดูอยู่รอบบริเวณดังกล่าว ซึ่งผมกับนายคำจู จึงเข้าไปห้ามปราม ให้หยุดไถ เพราะมีเรื่องข้อพิพาทกันอยู่ในศาล แต่นายทองด้วงไม่ฟัง ทั้งยังเอาปืนมายิงใส่ผมกับนายคำจู 2 นัด แต่กระสุนไม่ถูกใคร และนายคำจูก็ยิงสวนไป 1 นัด กระสุนถูกที่กระจกรถแม็คโคร” นายวิญญู กล่าว

นายวิญญู กล่าวอีกว่า จากนั้นนายทองด้วงจึงได้ตะโกนบอกลูกชายชื่อนายเอ ไปเอาปืนลูกซองในรถ แล้วสั่งลูกชายให้ยิงตนกับนายคำจู ลูกชายก็ทำตาม โดยวิ่งไปเอาในรถกระบะที่จอดอยู่ริมถนนแล้วก็มาไล่ยิงตนกับน้องชาย ตนจึงบอกน้องชายว่า แยกย้ายกันวิ่งหนี จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังตามขึ้นมาอีก 2 นัด เมื่อหันไปดูเห็นน้องชายล้มลงอยู่กลางทางเดินในทุ่งนา จึงรีบวิ่งกลับมาหาน้องชาย ปรากฏว่าน้องสิ้นใจแล้ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งญาติพี่น้องให้ทราบเรื่อง

นายวิญญู กล่าวว่า และไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจจึงจับนายทองด้วงคนเดียว ทั้งที่คนที่ยิงนายคำจูตายคือลูกชายของนายทองด้วง และเมื่อนายทองด้วงและลูกชายยิงน้องชายตนตายไปแล้ว เรื่องที่ดินในศาลก็ยังไม่จบ เพราะศาลต้องว่ากันตามหลักฐานของที่ดิน และอยากให้ตำรวจแจ้งข้อหาหนักกับนายทองด้วงและลูกชายให้ติดคุก เพราะตนเชื่อว่าถ้าไม่แยกย้ายกันหนี และฝนไม่ตก ตนน่าจะถูกฆ่าไปด้วยเช่นกัน

ด้าน พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวน สอบสวนอย่างละเอียด ว่าก่อนเกิดเหตุมีใครอยู่ในบริเวณดังกล่าวบ้าง และแต่ละคนเกี่ยวข้องหรือเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และถ้าพบว่ามีคนร่วมทำผิดก็จะเรียกมาสอบสวนและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ชลิต กล่าวต่อว่า ส่วนนายทองด้วงที่ถูกควบคุมตัวไว้ได้พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอกนั้น ยอมรับว่าตัวเองใช้ปืน 2 กระบอกยิงนายคำจู อ้างว่าทะเลาะวิวาทกันเรื่องที่ดินแล้วนายคำจูยิงก่อน จึงยิงตอบโต้แล้วกระสุนก็ถูกนายคำจูเสียชีวิต ตำรวจก็แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นปืนไม่มีทะเบียน

พ.ต.อ.ชลิต กล่าวอีกว่า จึงแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และขอยืนยันว่าตำรวจ มีการสืบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พบใครเกี่ยวข้อง และมีความผิดก็จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีเช่นกัน