ปทส. และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ บุกจับหนุ่มลักลอบค้าปะการัง ดอกไม้ทะเล ในเฟซบุ๊ก ยึดของกลางกว่า 300 ชิ้น เผยเป็นสัตว์คุ้มครอง และมีอัตราโทษสูง

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2565 พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส. สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รองผบก.ปทส. พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส. และนายไพรัตน์ สุทธิพล ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

เข้าจับกุมนายฐิติพงศ์ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางปะการังแข็ง 216 ชิ้น กัลปังหา 7 ชิ้น ดอกไม้ทะเล 9 ชิ้น และซากปะการัง อีก 75 ชิ้น และแจ้งข้อหา “ค้าและมีไว้ ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ”

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบผู้ลักลอบค้าปะการังแข็ง กัลปังหา และดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ทางเฟซบุ๊ก โดยมีนายฐิติพงศ์ เป็นพ่อค้าที่ลักลอบขายปะการังชนิดต่าง ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งนอกจากเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลแล้ว ยังทำให้ระบบนิเวศทางธรรมชาติเสียหาย และยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอีกด้วย

โดยทราบว่านายฐิติพงศ์ นั้นใช้บ้านพักของตนเองภายในซอยสุวินทวงศ์ 13 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เป็นแหล่งลักลอบเลี้ยงปะการังและดอกไม้ทะเลเพื่อการค้า จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวนนายฐิติพงศ์ ให้การว่า ปะการังและดอกไม้ทะเลทั้งหมดนั้น สั่งซื้อมาทางอินเทอร์เน็ต ก่อนนำมาเพาะเลี้ยงเป็นงานอดิเรก จนกระทั่งเมื่อเลี้ยงจนมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะลงประกาศขายในเฟซบุ๊ก โดยปะการังขายชิ้นละ 100-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด และความสวยงาม

รายงานข่าวแจ้งว่า ความผิดฐานมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองฯ นั้นมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดฐานค้าฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือว่ามีอัตราโทษที่ค่อนข้างสูงมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน