ครอบครัวหนุ่มคลั่ง ขอโทษญาติแฟนสาว ชี้หลานขาดยา ควบคุมตัวเองไม่ได้ ยันไม่มีสารเสพติดเกี่ยวข้อง ไม่ขอยื่นประกันตัว ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ

กรณี นายฐิติ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดแทง น.ส.เมธิณี (สงวนนามสกุล) แฟนสาว อายุ 27 ปี เสียชีวิต ภายในบ้านพัก เขตประเวศ แม่ของผู้ก่อเหตุบอกว่า ลูกมีอาการทางจิตหลอน เป็นมาตั้งแต่ปี 2562 พาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลวิภาราม ล่าสุดแม่แฟนสาวยันเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะลูกเคยถูกทำร้ายมาก่อน เผยเพิ่งคุยกับลูกครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว เพิ่งโทรคุยกัน! แม่ช็อก ลูกสาวถูก แฟนหนุ่มคลั่ง แทงดับ เผยเคยเตือนแล้ว

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 ส.ค.65 น.ส.จุ๋ม อายุ 45 ปี น้าของ นายฐิติ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ใกล้กับบ้านเกิดเหตุ แต่ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะระหว่าง แต่มีพี่สาวตนที่บ้านอยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุ ได้ยินเสียงทะเลาะกันเสียงดังกลางดึก ก่อนจะเงียบหายไป จึงคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะทั้งคู่มีปากเสียงกันเป็นประจำ และเคยมีลงไม้ลงมือกันบ้าง

หลานชายของตนมีอาการทางประสาท หวาดระแวง กลัวถูกฆ่าอยู่ตลอด ครอบครัวตนและแม่ของฝ่ายหญิงรู้ดี แม่ฝ่ายชายยังเคยเตือนว่า ถ้าเลิกได้ก็เลิกกันไป แต่เหตุการณ์ก็ไม่เคยรุนแรงเหมือนครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างปกติอยู่ด้วยกันตลอด และก่อนเกิดเหตุยังนั่งกินปิ้งย่างร่วมกับครอบครัว แต่มารู้ภายหลังว่าขึ้นไปทะเลาะกันบนห้องนอน

น.ส.จุ๋ม กล่าวต่อว่า ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดปอกผลไม้ที่มีอยู่ในบ้าน ไม่ใช่อาวุธที่หลานชายพกติดตัวตลอดเวลา ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดจากการทะเลาะกันแล้วฝ่ายชายควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงลงมือก่อเหตุ เพราะโดยพื้นฐานหลานชายไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรง และยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง

เนื่องจากผลตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ไม่พบสิ่งเสพติดในร่างกาย แต่น่าจะเกิดจากอาการป่วยทางจิตของหลาน เพราะครอบครัวสังเกตเห็นแล้วว่าอาการรุนแรงขึ้นและเปลี่ยนที่จะนำไปรักษาในเช้าวันนี้

น.ส.จุ๋ม กล่าวว่า ที่แม่ของผู้ตายอ้างว่า ครอบครัวของฝ่ายชายไม่ชอบลูกสาวตนนั้น น.ส.จุ๋ม ระบุว่า จะอ้างว่าครอบครัวไม่เคยปฏิบัติไม่ดีกับผู้ตาย ดังนั้นจะใช้คำว่าไม่ชอบไม่ได้ เพราะผู้ตายยังสามารถเข้านอกออกในในบ้านได้ และทุกครั้งที่ผู้ตายมาที่บ้านก็ใช้ชีวิตปกติ พี่สาวตนยังทำอาหารไปให้ทานตลอด

ส่วนที่แม่ผู้ตายติดใจว่า ขณะเกิดเหตุมีญาติของฝ่ายชายอยู่จำนวนมาก แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยนั้น น.ส.จุ๋ม กล่าวว่า ตอนนั้นเวลาประมาณ 02.00-03.00น. ทุกคนนอนกันหมดแล้ว และทั้งคู่ทะเลาะกันปกติ ใครจะเข้าไปยุ่ง อย่างไรก็ตามครอบครัวหารือเห็นว่า จะไม่ยื่นประกันตัวนายฐิติ

แต่จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เพื่อเข้าสู่ระบบการบำบัด ในระหว่างนั้นครอบครัวจะดำเนินควบคู่กันไป พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ใช้อาการป่วยทางจิตมาเป็นข้ออ้าง เพื่อหวังไม่ให้ต้องรับโทษ แต่ทุกอย่างคือความจริงที่เกิดขึ้น และมีหลักฐานการรักษา

“ที่ผ่านมาหลานไม่ได้มีนิสัยก้าวร้าวหรือหัวรุนแรงเลย จึงคาดว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเป็นเพราะขาดยา และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทุกฝ่ายสูญเสีย แต่อีกฝ่ายสูญเสียมากกว่า จึงพยายามเข้าไปพูดคุยกับแม่ผู้ตาย แต่เจ้าตัวบอกว่ายังไม่พร้อม ซึ่งดิฉันก็เข้าใจดี” น.ส.จุ๋ม กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน