ตำรวจบุกวิลล่าจับหนุ่มยูเครน เค้นสอบโยงปล้นเงินคริปโตเกือบ 2 ล้าน ผัว-เมียชาวรัสเซีย ชื่อโผล่จองคิวรถตู้ดำแก๊งมาเฟียต่างชาติลงเรือเฟอร์รี่หนีออกจากเกาะสมุย

จากกรณีชายชาวต่างชาติ 6 คน บุกปล้นชาย สัญชาติรัสเซีย อายุ 31 ปีกับภรรยา ภายในร้านกาแฟที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บังคับให้โอนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.8 ล้านบาทแล้วพากันขึ้นรถตู้สีดำและรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป เหตุเกิดวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุดคดีนี้ วันที่ 29 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมชาย อายุ 37 ปี สัญชาติคาซัคสถาน พร้อมของกลางรถตู้สีดำที่ขับมาก่อเหตุ ได้ที่บ้านพักในจ.ชลบุรี ส่วนที่เหลืออีก 5 ราย ประกอบด้วย ชาย อายุ 56 ปี ชาวสัญชาติคาซัคสถาน หลบหนีออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ชาย อายุ 39 ปี สัญชาติเยอรมัน หลบหนีออกไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ชาย อายุ 42 ปี สัญชาติรัสเซีย อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนอีก 2 คนอยู่ระหว่างการพิสูจน์

รถตู้ดำ

วันเดียวกันตำรวจเข้าคุมตัว ชาย อายุ 35 ปี สัญชาติยูเครน ที่วิลล่าบ้านปลายแหลม ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย พร้อมตรวจยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ นำตัวมาสอบสวน หลังพบว่ามีรายชื่อเป็นผู้จองคิวลงเรือเฟอร์รี่ให้กับรถตู้สีดำของคนร้ายที่มาก่อเหตุบนเกาะสมุย

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของชายชาวยูเครน พบว่า เมื่อครบกำหนดอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด

หนุ่มยูเครน

” จนกระทั่งถึงวันนี้อยู่เกินอนุญาตแล้ว 282 วัน ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จึงแจ้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (282วัน) นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน